เช็คเลยที่ไหนบ้าง! ปภ.อัพเดต “น้ำท่วม” 28 ต.ค.คลี่คลายเกือบหมด-15 จว.ยังจม
“ปภ.” อัพเดต “น้ำท่วม” 28 ต.ค. 2564 ยังมีสถานการณ์อีก 15 จังหวัด ส่วนใหญ่คลี่คลายแล้วเกือบทั้งหมด เร่งประสาน อปท. ระบายน้ำ-ช่วยเหลือประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวม 15 จังหวัด โดยอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 ต.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก 3 จังหวัด (เชียงใหม่ ชุมพร ตรัง) สถานการณ์คลี่คลายแล้ว
ส่วนร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และนครปฐม รวม 30 อำเภอ 137 ตำบล 825 หมู่บ้าน 22,006 ครัวเรือน
ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” เมื่อวันที่ 15 -17 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี และปราจีนบุรี รวม 2 อำเภอ 7 ตำบล 27 หมู่บ้าน 95 ครัวเรือน
ขณะที่อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวม 23 อำเภอ 214 ตำบล 1,048 หมู่บ้าน 67,290 ครัวเรือน สำหรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากฝนตกต่อเนื่องและการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ ตั้งแต่วันที่ 20 - 28 ต.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น หนองบัวลำภู รวม 3 อำเภอ 8 ตำบล 14 หมู่บ้าน 239 ครัวเรือน ทั้งนี้ ในภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่ ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 ต.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชุมพร ตรัง รวม 6 อำเภอ 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน 38 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้วทั้งสามจังหวัด
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และกาญจนบุรี รวม 52 อำเภอ 205 ตำบล 1,029 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,513 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และนครปฐม รวม 30 อำเภอ 137 ตำบล 825 หมู่บ้าน 22,006 ครัวเรือน ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลง ดังนี้
1. ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอเมืองชัยภูมิ รวม 8 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 544 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 14 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอคง อำเภอเมืองยาง อำเภอประทาย อำเภอโนนไทย อำเภอโชคชัย อำเภอพิมาย อำเภอปักธงชัย อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอจักรราช อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอห้วยแถลง และอำเภอชุมพวง รวม 45 ตำบล 233 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,342 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3. บุรีรัมย์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนางรอง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4. ศรีสะเกษ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทัน และอำเภออุทุมพรพิสัย รวม 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 202 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
5. นครปฐม น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอพุทธมณฑล และอำเภอเมืองนครปฐม รวม 74 ตำบล 543 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,907 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” เมื่อวันที่ 15 -17 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 16 อำเภอ 74 ตำบล 315 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,605 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี และปราจีนบุรี รวม 2 อำเภอ 7 ตำบล 27 หมู่บ้าน 95 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลงในทุกพื้นที่ ดังนี้
1. ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ รวม 6 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30 ครัวเรือน
2. ปราจีนบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 65 ครัวเรือน
สำหรับผลกระทบจากพายุ “เตี้ยนหมู่” เมื่อวันที่ 23 ก.ย. - 7 ต.ค. 2564 ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 226 อำเภอ 1,206 ตำบล 8,265 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 339,346 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 20 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 1 ราย นครสวรรค์ 3 ราย สิงห์บุรี 3 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 27 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวม 23 อำเภอ 214 ตำบล 1,048 หมู่บ้าน 67,290 ครัวเรือน ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ดังนี้
1. มหาสารคาม น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม รวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,627 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
2. สุพรรณบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 20 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,011 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3. สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี รวม 10 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,149 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4. อ่างทอง ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 36 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,453 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5. พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมขังในในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน และอำเภอบางซ้าย รวม 115 ตำบล 681 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,749 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
6. ปทุมธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ด้านสถานการณ์อุทกภัยจากน้ำล้นตลิ่งซึ่งเกิดจากฝนตกต่อเนื่องและการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำในลำน้ำล้นตลิ่ง ตั้งแต่วันที่ 20 – 28 ต.ค. 64 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และหนองบัวลำภู รวม 3 อำเภอ 8 ตำบล 45 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 891 ครัวเรือน ยังคงมีสถานการณ์ทั้ง 2 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 8 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 239 ครัวเรือน
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง