“เกาหลี” ประเดิมเที่ยวแรกเปิดเมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในวันที่ 1 พ.ย.2564 ทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมความพร้อมตามนโยบายของรัฐบาล   ล่าสุด มีรายงานข่าวยืนยันว่า กลุ่ม นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกลุ่มแรกจะเป็นชาวเกาหลี จำนวน 150 คน หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากต่างประเทศเป็นเวลานานกว่า 2 ปี โดยมีกำหนดเดินทางด้วยสายการบินเจจู แบบเช่าเหมาลำจากสนามบินอินซอน ประเทศเกาหลีมายังสนามบินเชียงใหม่ ในวันที่ 5 พ.ย.2564 เวลา 23.30น.

 

 นายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันแล้วว่า นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี จะเป็นชาติแรกที่เดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 150 คน โดยมีเป้าหมายจะเข้ามาเล่นกอลฟ์ที่สนามกอล์ฟอาทิตยา เชียงใหม่ กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ทจังหวัดลำพูน เป็นเวลา 7 วัน หลังจากนั้นทุกวันศุกร์สายการบินเจจู จะนำนักท่องเที่ยวเดินทางมาแบบเช่าเหมาลำเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่อีก 7 เที่ยวบิน เพื่อมาเล่นกลอฟ์ที่สนามกอล์ฟดังกล่าว และในเร็วๆ นี้มีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวสิงค์โปร์ และไต้หวัน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย 

       

ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ในเดือนพฤศจิกายน 2564 น่าจะเชื่อมต่อกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่คงจะมีปริมาณไม่มาก แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 น่าจะมีสัญญานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ร้อยละ 90 นั้น น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยทุกอย่างต้องรอดูความชัดเจนของกฎระเบียบของทางภาครัฐว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศอย่างไร เพื่อให้การท่องเที่ยวและความปลอดภัยสามารถเดินคู่ขนานกันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

           ขณะที่นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานการฝึกซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ และการเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ณ ห้องประชุมอาคารสำนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา มีผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้แทนส่วนราชการ เช่น ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ด่านศุลกากร ผู้แทนสายการบินและผู้ให้บริการภาคพื้น ตลอดจนคณะกรรมการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ อย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายณัฐวุฒิ ทาอินต๊ะ ผู้อำนายการฝ่ายปฎิบัติการท่าอากาศยาน เป็นเลขาคณะทำงานเรื่องนี้

      ทั้งนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้จำลองเส้นทาง และกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกระหว่างประเทศ ในรูปแบบคลิปวิดีโอ โดยผู้โดยสารขาเข้ามีขั้นตอนการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจสอบอุณหภูมิ การจัดเตรียมเอกสาร การตรวจเอกสารสาธารณสุข พิธีการตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ พิธีการศุลกากร การนัดพบผู้ประกอบการนำเที่ยว และการรับผู้โดยสารขึ้นรถไปยังที่พัก เบื้องต้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 100 คน หรือในหนึ่งเที่ยวบินจะใช้เวลาคัดกรองผู้โดยสารเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง ซึ่งหากพิจารณาจากเวลาเปิดให้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ 06.00-24.00 น. แล้ว จะสามารถรองรับเที่ยวบินได้สูงสุดวันละ 9 เที่ยวบิน

    สำหรับขั้นตอนของผู้โดยสารขาออก เบื้องต้นกำหนดไว้ 6 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร จากนั้นผู้ที่มีสิ่งของต้องสำแดงเพื่อขอรับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์ศุลกากร ก่อนไปถึงขั้นตอนการเช็คอิน การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจตามระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบิน การตรวจหนังสือเดินทาง และการรอเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ ในกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่าง ประเทศ เช่น เพิ่มเครื่อง X-ray เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง และจัดพื้นที่ในห้องโถงพักคอยให้เป็นไปตามมาตรการ Social Distancing

  อย่างไรก็ตาม  ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รายงานว่า เที่ยวบินระหว่างประเทศ ณ วันที่ 28 ต.ค.64 ยังมีสายการบินเดียว คือ สายการบินเจจูแอร์ เปิดบินเส้นทางบิน อินชอน-เชียงใหม่-อินชอน ทำการบินทุกวันศุกร์ เวลา 22.30-23.30 เริ่มวันที่ 5 พ.ย.2564ส่วนสายการบินอื่นที่ได้รับใบอนุญาต แต่ยังไม่มีการติดต่อขอทำการบิน คือ สายการบินAir asia berhad เส้นทางบิน กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์ และสายการบินAsiana เส้นทางบินอินชอน-เชียงใหม่-อินชอน