"พระมหาไพรวัลย์" แย้มวันลาสิกขาเมื่อไหร่ พระมหาสมปอง เข้าให้กำลังใจ
"พระมหาไพรวัลย์" วรวณฺโณ ซึ่งได้ทำการไลฟ์เฟซบุ๊กโดยมีช่วงหนึ่ง พส.ได้หลั่งน้ำตาประกาศเตรียมลาสิกขา ขณะที่ พระมหาสมปอง เข้าร่วมไลฟ์ให้กำลังใจ ปลอบน้อง
เมื่อคืนที่ผ่านมา "พระมหาไพรวัลย์" วรวณฺโณ ซึ่งได้ทำการไลฟ์เฟซบุ๊กโดยมีช่วงหนึ่ง พส.ได้หลั่งน้ำตาประกาศเตรียมลาสิกขา จากกรณี พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ที่ พระมหาไพรวัลย์ เปรียบท่านเป็นพ่อคนหนึ่ง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัด
อ่านข่าวที่เก่ยวข้อง
- "พระมหาไพรวัลย์" หลั่งน้ำตาประกาศเตรียมลาสิกขา สุดอัดอั้นระบายความในใจ
- ประวัติ พระราชปัญญาสุธี ที่ "พระมหาไพรวัลย์" เปรียบเสมือนเป็นพ่อคนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน "พระมหาสมปอง" ก็ได้เข้ามาไลฟ์ร่วมกับ "พระมหาไพรวัลย์" ซึ่งก็ได้ให้กำลังใจ ซึ่งทั้ง 2 พส.ก็ได้พูดแซวกัน ซึ่ง พระมหาไพรวัลย์ บอกขำๆว่าเป็นแผนการตลาด จบมาร์เก็ตติ้งมา ในขณะที่ พระมหาสมปอง จึงแซวกลับไปว่าอีกแล้วนะ อย่าเลียนแบบพี่ทุกอย่างสิ พร้อมถามกลับว่าเข้าใจพี่หรือยัง พระมหาไพรวัลย์ ก็บอกว่า เข้าใจแล้ว
"พระมหาไพรวัลย์" ได้เล่าย้อนความหลังก่อนวันที่จะบวชว่า โยมแม่เรียกให้มานอนด้วยกันบอกว่า ถ้าไม่กอดวันนี้ จะไม่ได้กอดกันอีกแล้ว เป็นการกอดกันครั้งสุดท้าย เพราะถ้าบวชแล้วจะกอดกันไม่ได้แล้ว โยมแม่โกหก
ซึ่ง "พระมหาสมปอง" จึงได้พูดเสริมว่า คนที่โกหกเราเก่งที่สุด คือ พ่อแม่ ไม่มีก็บอกว่ามี เป็นไรก็จะบอกว่าไม่เป็นไร หิวก็จะบอกว่าไม่หิว จากนั้นพระมหาสมปอง ยังแซวอีกว่า ช่วงที่อาตมาขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ก่อนแซวว่าพวกเรามาเซฟ พระมหาไพรวัลย์ กันเถอะ
จากนั้น พระมหาไพรวัลย์ บอกว่าไม่ต้องมาเซฟอาตมา เพราะไม่มีอะไรต้องเซฟ เซฟเจ้าอาวาสให้ก็พอ ที่มาพูดวันนี้ไม่ได้ต้องการพูดเพื่อตัวเอง แต่มาพูดเพื่อขอความเป็นธรรมให้พระอาจารย์ ถ้ารักอาตมาขอให้เซฟพระอาจารย์ให้ที
ตอนนี้เหมือนขาข้างหนึ่งอยู่ในผ้าเหลือง ส่วนขาอีกข้างอยู่ในกางเกงแล้ว พร้อมบอกว่า ไม่เอาแล้ว ขอร้องไห้เพียงครั้งเดียว วันนี้ได้พูดความรู้สึกไปหมดแล้ว ถ้าได้เอกสารออกมาอย่างเป็นทางการว่าพระอาจารย์ (พระราชปัญญาสุธี) ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ก่อนเข้าพรรษาสัก 1-2 วันก็จะลาสิกขา
แต่ถ้าพระอาจารย์ดำรงรักษาการเจ้าอาวาสไปเรื่อยๆ ก็อยู่ได้ เมื่อ พระมหาสมปอง ถามว่าจะเป็นการกดดันไหม พระมหาไพรวัลย์ ก็บอกว่า ไม่ได้เรียกว่ากดดัน เราไม่มีสิทธิ์ต้อง แต่ต้องมองกลับไปว่า ทำไมต้องทำให้เราเกิดความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมมากกว่า