รวบแล้ว! คนร้าย จี้-เผาร้านเซเว่นฯ สารภาพอ้างไม่ได้ตั้งใจ
รวบแล้ว! คนร้าย จี้ชิงทรัพย์และเผาร้านเซเว่นฯ ใน อำเภอแม่แตง สารภาพอ้างไม่ได้ตั้งใจ เผยตอนแรกต้องการจะไปง้อแฟนที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่กลัวเงินไม่พอจึงก่อเหตุ ด้านตำรวจแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และพ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ วงศ์อุทัย รรท.ผกก.สภ.แม่แตง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายธนพล อายุ 24 ปี อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ "หนุ่มเชียงดาว" ผู้ต้องหา หลังจากก่อเหตุบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และเผาทำลายระบบคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดเพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะได้เงินสดไป 1,000 บาท โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ภายในพื้นที่โครงการม่อนระมิงค์ ริมถนนสายเชียงใหม่-ฝาง ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
จาการสอบสวนนายธนพล ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็น รปภ.ในตัวเมืองเชียงใหม่ และเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ รวมถึงทำงานมาหลายอาชีพ ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุรากับเพื่อนที่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จนเมาหนักได้ที่ ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ มาของ้อแฟนสาวที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพราะว่าทะเลาะกันผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วแฟนสาวบล็อคการติดต่อทุกช่องทาง ทำให้ต้องไปง้อแฟนสาวด้วยตนเอง แม่ให้เงินติดตัวมา 200 บาท ได้มาแวะซื้อมาม่า น้ำดื่ม และขนม ในร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน หลังซื้อของเสร็จจากเหลือเงิน 40 บาท จากนั้นได้จอดรถแวะรับประทาน มาม่า น้ำดื่ม ที่เพิงขายมะพร้าวสด ฝั่งตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ
ขณะรับประทานไปได้เกิดความคิดกลัวว่าจะเดินทางไปไม่ถึง อ.สารภี เพราะมีเงินแค่ 40 บาท จึงตัดสินใจจี้ร้านสะดวกซื้อ โดยใช้มีดที่เจอระหว่างทาง เดินข้ามถนนเข้าไปจี้พนักงาน พร้อมกับเตรียมน้ำมันเข้าไปด้วย โดยดูดน้ำมันมาจากรถจักรยานยนต์ของตนเอง โดยถอดสายคาบูเรเตอร์ ผ่องถ่ายน้ำมันใส่ขวดน้ำ โดยระหว่างก่อเหตุ พบภาพตัวเองในกล้องวงจรปิด จึงกลัวจะเป็นหลักฐานระบุตัวตน จึงนำน้ำมันที่ใส่ขวดราดและจุดไฟเผาเคาน์เตอร์เก็บเงินและระบบคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด หลังจากนั้นจึงขี่รถหลบหนีไปอยู่ที่บ้าน ใน อ.เชียงดาว โดยใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฝาง กบดานอยู่ได้ประมาณ 2 วัน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธนพล มูลคำ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยจุดแรกเป็นจุดที่จอดรถฝั่งตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ จุดที่ 2 คือที่ร้านสะดวกซื้อที่เข้าไปก่อเหตุ โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายธนพล กลับไปดำเนินคดีต่อที่ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายธนพล ก่อนขึ้นรถว่าสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะอะไร นายธนพลตอบสั้นๆว่า “ไม่ได้ตั้งใจ”
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐานในการหาตัวคนร้ายเป็นอย่างมาก เพราะคนร้ายเผากล้องวงจรปิดเกือบทั้งหมด ทำให้ต้องอาศัยการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่อื่น จนสามารถได้ภาพของคนร้ายขณะหลบนี้ จากกล้องตำรวจทางหลวงเส้นทางเชียงใหม่-ฝาง และภาพที่ชัดเจนว่ายืนยันรูปพรรณสันฐานของคนร้ายตรงกับที่พนักงานให้การ คือกล้องของด่านตรวจยาเสพติดแก่งปั้นเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่แกะรอยต่อไปจนสามารถตามไปจับกุมเอาไว้ได้ พร้อมทั้งมีดที่ใช้จี้ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุและขับหลบหนี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากระทำจริงและทำเพียงคนเดียว โดยบอกว่าไม่ได้มีการเตรียมการอะไรมาก่อน แต่จากพฤติกรรมของผู้ต้องหา มีการเตรียมการ แต่เตรียมการวางแผนแบบรวดเร็ว ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่การสอบสวนอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ขณะนี้จากการสอบสวน พบว่าเหตุจูงใจของผู้ต้องหา คือ การประสงค์ต่อทรัพย์ แต่จากการเผาทำลายเป็นการพยายามทำลายหลักฐาน ซึ่งการวางเพลิงถือว่ามีโทษหนัก ขณะนี้มูลค่าความเสียหายของร้านสะดวกซื้ออยู่ประมาณ 3-4 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะโดยมีอาวุธ วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่แตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป