ไฟเซอร์เตรียมมอบสูตรผลิตยารักษาโควิดตามรอยเมอร์ค
ไฟเซอร์ อิงค์ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขั้นคืบหน้ากับเอ็มพีพี เกี่ยวกับการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศต่างๆ เพื่อให้กลุ่มประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาดังกล่าว
องค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (เอ็มพีพี) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันนี้(6 พ.ย.)ว่า บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขั้นคืบหน้ากับเอ็มพีพี เกี่ยวกับการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศต่างๆ เพื่อให้กลุ่มประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาดังกล่าว
บริษัทไฟเซอร์แถลงว่า ผลการทดลองในระยะที่ 3 สำหรับยาแพ็กซ์โลวิด พบว่า ยาดังกล่าวสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 89% โดยสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียง 50%
อ่านข่าว : สหรัฐสั่งซื้อยาแพ็กซ์โลวิดหลายล้านโดส
การดำเนินการมอบช่วงสิทธิบัตรของไฟเซอร์สอดคล้องกับที่เมอร์คเจรจากับเอ็มพีพีก่อนหน้านี้ โดยเมอร์คได้มอบช่วงสิทธิบัตรผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศในกลุ่มรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางจำนวน 105 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชียและแอฟริกา
ทั้งนี้ บริษัทที่ต้องการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์สามารถยื่นเรื่องต่อเอ็มพีพีเพื่อขอการอนุมัติ โดยเอ็มพีพีจะมอบช่วงสิทธิบัตรให้แก่บริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานสาธารณสุขภายในประเทศในการผลิตยาดังกล่าว
เอ็มพีพี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทกว่า 50 แห่งที่ได้ยื่นเรื่องขอรับช่วงสิทธิบัตรในการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์แล้ว
บริษัทเมอร์คและบริษัทริดจ์แบ็คจะไม่เรียกเก็บค่ารอยัลตี หรือค่าตอบแทนใดๆจากบริษัทที่ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ตราบใดที่องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ยังคงจัดอันดับโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
คาดว่าการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาดังกล่าว จะทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์มีราคาถูกลงเหลือเพียงคอร์สละ 20 ดอลลาร์ หรือราว 650 บาท ขณะที่รัฐบาลสหรัฐซื้อยาดังกล่าวจากเมอร์คในราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 23,000 บาท