“บิ๊กป้อม” ลงใต้พบชาวบ้านปากแม่น้ำเทพา ติดตามแก้ปัญหากัดเซาะชาย

“บิ๊กป้อม” ลงใต้พบชาวบ้านปากแม่น้ำเทพา ติดตามแก้ปัญหากัดเซาะชาย

“บิ๊กป้อม” พบชาวบ้านปากแม่น้ำเทพา ติดตามความก้าวหน้าโครงการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งงบประมาน 360 ล้าน สร้างเขื่อนกั้นสองฝั่งแม่น้ำ พร้อมปล่อยวลีเด็ด “พลังประชารัฐใจถึง พึ่งได้” ไม่พลาดกราบ “หลวงพ่อทวด วัดช้างให้”ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ประธานวิปรัฐบาล,นายธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการกรรมการบริหารพรรคฯ ,ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ,นายสิระ เจนจาคะ พร้อมด้วยสส.พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ภาคใต้มากันครบถ้วน

ได้เดินทางที่บริเวณปากแม่น้ำเทพา ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่รื้อรังมาอย่างยาวนานโดยบริเวณนี้มีการเตรียมเต็นท์ไว้ 2หลังไว้รองรับชาวบ้านที่มาต้อนรับและร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งทันทีที่พล.อ.ประวิตรมาถึงได้นั่งรถเพื่อมายังจุดบริเวณริมแม่น้ำเทพาที่จะมีการสร้างเขื่อนหรือกำแพงริมสองฝั่งเพื่อป้องกันการกัดเซาะ โดยมีนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าด้านปลอดภัย นำเสนอแผนงานตามแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างเขื่อนงบประมาณ 360 ล้านบาท ระยะทาง2,000เมตร แบ่งออกเป็น 2 ระยะโดยระยะที่ 1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งจะเริ่มที่บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 นำร่องระยะทาง 500 เมตร

ส่วนระยะที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 ก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่ต่อเนื่องกัน พร้อมกับขุดลอกร่องน้ำ ทั้งหมดดำเนินการโดยกลุ่มเจ้าท่าฯ

 

จากนั้นพล.อ.ประวิตร ได้เดินทางพบปะมวลชนที่มารอพร้อมพูดทักทายและให้ความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาปากท้องของชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วยประโยคเด็ดที่ระบุว่า “พรรคร่วมรัฐบาลโดยการนำของพรรคพลังประชารัฐใจถึงพึ่งได้น่ะครับ ” พร้อมเสียงปรบมือดังลั่น จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยพล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า การเดินทางมาวันนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ของอำเภอเทพาจังหวัดสงขลาที่รัฐบาลพยายามให้มีความก้าวหน้าช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด

ภายหลังเสร็จภารกิจที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาได้เดินทางต่อมายังที่วัดราฎร์บูรณะ หรือวัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นวัดสำคัญในพื้นที่ชายแดนใต้และเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นหลวงพ่อทวด พร้อมกับร่วมเป็นประธานทอดกฐิน และเข้าร่วมสนทนาเจ้าอาวาสวัดช้างให้ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ