โผล่อีก 30 ราย เหยื่อกู้เงิน ธ.ก.ส. สร้างบ้านไม่เสร็จ
พบผู้เดือนร้อน จากกู้เงินสร้างบ้านจาก ธ.ก.ส. สาขาแม่เหียะ เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 30 ราย วงเงินไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท หลังผู้รับเหมาทิ้งงานไม่สร้างต่อให้เสร็จ ขณะที่ผู้รับเหมา “ประยูร” เริ่มติดต่อลูกค้า รับปากจะทำบ้านให้เสร็จทุกหลัง พร้อมขอให้ลูกค้าทุกคนไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 หลังจากที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาเชียงใหม่ ได้แถลงข่าวกรณีพบความผิดปกติในการอนุมัติสินเชื่อในโครงการ เงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย โดยมี น.ส.ปิยะนุช สุทธเสนา อายุ 34 ปี ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนกรณีกู้เงินสร้างบ้าน จำนวน1.99 ล้านบาท โดยใช้เอกสารเพียงบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียน แต่บ้านกลับสร้างไม่เสร็จตามกำหนดเวลา ธนาคารได้ประสานกับผู้รับเหมาให้ชดเชยเงินให้กับ น.ส.ปิยะนุช จำนวน 40,000 บาท และให้ก่อสร้างบ้านให้แล้วภายในเดือนพฤศจิกายน 2564
ล่าสุด เวลา 13.30 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 มีกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติม นับ 10 ราย ต่างระบุว่า ได้ดำเนินการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินและก่อสร้างบ้าน จาก ธกส.สาขาแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วงเงินกู้ 2 ล้านบาท โดยใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานในการกู้เงิน โดยใช้เวลาในการอนุมัติ ไม่เกิน 7 วัน บางรายอนุมัติภายใน 1 วัน
โดยทางธนาคารได้ให้เปิดบัญชีเงินกู้ 1 เล่ม และ ออมทรัพย์ 1 เล่ม เมื่ออนุมัติเงินแล้ว ทางธนาคารได้โอนเงินงวดแรกจำนวน 1.4 ล้านบาท เข้าบัญชีเงินกู้ หลังจากนั้นจะให้เจ้าของบัญชีเซ็นใบถอนเงินเพื่อนำเข้าบัญชีออมทรัพย์ หลังจากนั้นเงินจะถูกโอนไปให้ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ชื่อ “ประยูร ขอสงวนนามสกุล” ทุกหลัง แต่บ้านกลับสร้างไม่เสร็จ
นางวิไล ไชยเฟย ชาวเชียงใหม่ อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า ได้ให้ลูกสาวเป็นผู้ขอยื่นกู้เงินจาก ธกส. หลังจากได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก โดยระบุว่าสามารถกู้ง่ายโดยใช้เอกสารเพียงบัตรประจำตัวประชาชน และ ทะเบียนบ้านเท่านั้น ในวงเงิน 2 ล้านบาท จึงได้ให้ลูกสาวเป็นผู้ยื่นกู้เงิน โดยทำเรื่องขอกู้เงินเมื่อประมาณ ปลายปี 2563 ระยะเวลาก่อสร้าง 10 เดือน บริเวณบ้านน้ำบ่อเย็น หมู่ 11 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ โดยทางธนาคารเป็นผู้จัดหาผู้รับเหมาให้ ซึ่งบ้านต้องเสร็จในเดือนกันยายน 2564 แต่สภาพปัจจุบันมีเพียงโครงเสาบ้านเท่านั้น ในขณะนี้ได้เบิกเงินให้ผู้รับเหมาไปแล้วจำนวน 1.4 ล้านบาท
ขณะนี้ยังมีเงินคงค้างอยู่กับธนาคารอีกจำนวน 600,000 บาท อยู่ระหว่างการขอเบิกจากธนาคาร แต่กังวลว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่สามารถก่อสร้างบ้านขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวให้แล้วเสร็จได้ ซึ่งขณะนี้ได้ชำระค่างวดกับธนาคารไปแล้วจำนวน 3 งวด งวดละประมาณ 15,000 บาท โดยขณะนี้ทางธนาคารได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเอกสารรายได้เพิ่มเติม เพื่ออนุมัติวงเงินที่ค้างอยู่ ตองนี้กังวลว่าบ้านก็ไม่เสร็จแต่ต้องมาเป็นหนี้สินกับธนาคาร
ด้าน น.ส.แอม (นามสมมุติ) ชาวเชียงราย อายุ 27 ปี กล่าวว่า ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จึงขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงาน โดยก่อนหน้าที่จะมากู้เงินซื้อบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ยังไม่ได้เข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ได้รับการแนะนำจากคนรู้จักเรื่องการกู้เงินเพื่อปลูกสร้างบ้านโดยไม่ต้องใช้เอกสารทางการเงิน จึงสนใจทำการกู้เงิน เพื่อสร้างบ้านให้ตัวเอง 1 หลัง และ ให้คนในครอบครัวกู้อีก 1 หลัง ในวงเงินกู้หลังละ 2 ล้านบาท เมื่อเดือน มิถุนายน 2563 โดยตกลงก่อสร้างบ้านบริเวณหมู่ 5 ต.ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่ ซึ่งในขณะนั้นไม่มีความรู้เรื่องกู้เงินซื้อบ้าน จึงตัดสินใจทำการกู้เงิน
ขณะเดียวกันด้วยความที่เห็นว่ากู้เงินสร้างบ้านได้ง่ายไม่ต้องใช้หลักฐานทางการเงิน จึงได้แนะนำให้คนรู้จักมากู้เงินที่สาขาแม่เหี๊ยะด้วยกันจำนวนนับ 10 ราย ในจำนวนนี้มีการบอกต่อไปอีกรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ราย ในจำนวนนี้รวมของนางวิไล และนส.จริภัทร วงเงินสินเชื่อที่ธนาคารแห่งนี้อนุมัติไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งแต่ละหลังที่ทำการกู้เงินประสบปัญหาเดียวกันคือบ้านสร้างไม่เสร็จ โดยมีผู้รับเหมาชื่อ “ประยูร” เป็นผู้เดินเรื่องทั้งหมด
สำหรับวงเงินงวดแรกที่เบิกออกมาจำนวน 1.4 ล้านบาท ธนาคารจะโอนผ่านไปทางผู้รับเหมา ชื่อ ประยูร เพื่อดำเนินการก่อสร้าง ที่ผ่านมาผู้รับเหมารับปากว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีความคืบหน้า หลังจากนั้นวันที่ 17 กันยายน 2563 เทศบาลตำบลป่าแดด ได้เข้ามาติดป้ายระงับการก่อสร้าง เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตก่อสร้าง และแบบบ้านไม่ได้มาตรฐาน แต่หลังจากนั้นไม่นานทางเทศบาลตำบลป่าแดดได้มานำป้ายออก เชื่อว่ามีการพูดคุยกับผู้รับเหมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการก่อสร้างให้เสร็จ
ที่ผ่านมาไม่สามารถติดต่อกับผู้รับเหมา “ประยูร” ได้ แต่ล่าสุดหลังจากที่มีข่าวของ น.ส.ปิยะนุช ที่ไปร้องเรียนเรื่องการก่อสร้างไม่เสร็จ ทางผู้รับเหมาได้ติดต่อเข้ามา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. 64 โดยระบุว่าให้ช่วยแจ้งกับลูกค้าทุกคนว่า จะเข้ามาดำเนินการให้แล้วเสร็จทุกหลังภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ พร้อมทั้งระบุว่าไม่อยากให้ลูกค้าสัมภาษณ์ออกสื่อ
ขณะที่น.ส.จิรภัทร ปินต๊ะเหล็ก ชาวเชียงราย อายุ 42 ปี กล่าวว่า ประสบปัญหาเช่นเดียวกันทุกคนที่ยื่นขอสินเชื่อกับธ.ก.ส. สาขาแม่เหียะ โดยได้รับการแนะนำจากเพื่อนบ้านที่ทำการกู้ และได้รับการก่อสร้างบ้านเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ในพื้นที่บ้านน้ำบ่อเย็น หมู่ 11 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ส่วนพื้นที่ก่อสร้างบ้านของตนเองอยู่ในพื้นที่ บ้านท่าใหม่อิ หมู่ 5 ซอย 12 ต.ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่ ในบริเวณดังกล่าวมีบ้านที่ทำการกู้เงินจาก ธ.ก.ส.สาขาแม่เหียะจำนวน 8 หลัง ทุกหลังมีผู้รับเหมาชื่อ “ประยูร” เป็นผู้ดำเนินการ และทั้งหมดประสบปัญหาเหมือนกันคือสร้างไม่เสร็จ แต่บางหลังได้ลงมือจ้างช่างมาทำต่อให้เสร็จเอง เพื่อที่จะได้เข้าอยู่ แต่ของตนเองนั้นยังคงปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ทำอะไร จึงอยากให้ผู้รับเหมาออกมารับผิดชอบ