อัพเดท เงินเยียวยาเกษตรกร ประกันรายได้ข้าว เช็คง่ายๆ เงินเด้งเข้าบัญชี ไม่ต้องไป ธ.ก.ส.
รู้แล้วบอกต่อ เงินเยียวยาเกษตรกร ประกันรายได้ข้าว เช็คง่ายๆ เงินเด้งเข้าบัญชี ไม่ต้องไป ธ.ก.ส. แนะต้องมีไว้ในสมาร์ทโฟน อัพเดทล่าสุดจ่ายแล้ว 5.3 แสนครัวเรือน เป็นเงิน 1.12 หมื่นล้านบาท
ติดตามอัพเดท เงินเยียวยาเกษตรกร ประกันรายได้ข้าว ชาวนายังคงเฝ้ารอคอยเงินชดเชยส่วนต่างราคา ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 เตรียมจะนำไปใช้หนี้และเก็บไว้ลงทุนทำนาปลูกข้าวในปีการผลิตหน้า
ชาวนาในพื้นที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หลายรายยังคงรอคอยเงินชดเชยส่วนต่างราคา ตาม โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ทางรัฐบาลจะโอนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาพิมาย ได้โอนเงินชดเชยส่วนต่าง รอบที่ 1 (งวดที่ 1 ) ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 66 ราย เป็นเงิน 1,035,620.07 บาท
อำเภอพิมาย มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเกษตรไว้จำนวน 16,000 ราย นายณรงค์ นาควิริยพงศ์ อายุ 49 ปี ชาวนารายหนึ่งในตำบลดงใหญ่ บอกว่า ตนเองลงทุนทำนาปลูกข้าว จำนวน 14 ไร่ โดยได้ลงทะเบียนผ่านแอพฯ ฟาร์มบุ๊ก (Farmbook) ของกรมส่งเสริมเกษตรกร โดยแอพฯนี้จะแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้าหรือได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง ทำให้ตนเองรู้ว่าจะได้เงินเมื่อไหร่ แต่เกษตรกรบางคนที่ยังไม่โหลดแอพฯนี้มาใช้ ก็ต้องรอฟังประกาศจากทางอำเภอว่าจะได้รับเงินชดเชยส่วนต่างเมื่อไหร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนตนเองยังไม่ได้ เพราะเพิ่งได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งนี้หลังจากที่ตนเองได้เงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวจากทางรัฐบาลแล้ว ตนเองก็จะนำเอาเงินก้อนนี้ไปใช้หนี้ ค่าปุ๋ย ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าแรงงานต่างๆ และจะเก็บไว้ลงทุนทำนาปลูกข้าวในฤดูการผลิตข้าวนาปี ในปีหน้าต่อไป
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยวานนี้ 10 พ.ย. 2564 ว่า ธ.ก.ส. พร้อมที่จะใช้สภาพคล่องของธนาคารรองรับโครงการประกันรายได้แก่เกษตรกรในพืชผลการเกษตรตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งประกอบด้วย ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ มันสำปะหลัง
ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติในการจ่ายเงิน โดยให้ธ.ก.ส.นำเงินของธนาคารไปจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาประกันพืชผลต่างๆและมีข้อมูลรายละเอียดของเกษตรกรที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ทางธ.ก.ส.สามารถจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรภายใน 3 วันทำการ โดยผ่านช่องทางการให้บริการต่างๆของธนาคาร ทั้งสาขาที่มีอยู่กว่า 1.2 พันแห่งทั่วประเทศ และ ช่องทางของเอทีเอ็ม รวมถึง แอพลิเคชัน เอโมบายของธนาคาร
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีมติให้รัฐบาลจ่ายเงินประกันรายได้พืช 3 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2564/65 ซึ่งมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 4.6 ล้านราย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้จำนวนประมาณ 5 แสนราย และ มันสำปะหลัง ซึ่งมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้ประมาณ 5 แสนราย
ทั้งนี้ ข้าวนาปีประกันราคาไว้ที่ประมาณ 1 หมื่นบาท ถึง 1.5 หมื่นบาท ต่อตันแล้วแต่ชนิดของข้าว ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประกันราคาไว้ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม และ มันสำปะหลังประกันราคาไว้ที่ 2.50 บาทต่อกิโลกรัม
สำหรับการจ่ายเงินชดเชยประกันราคาข้าวนาปีนั้น ทาง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการจ่ายในรอบแรกไปแล้วเมื่อ 9 พ.ย. 64 จำนวน 5.3 แสนครัวเรือน เป็นเงิน 1.12 หมื่นล้านบาท ส่วนรอบที่สองนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียด ซึ่งรวมถึง การจัดหาแหล่งทุนด้วย ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการจ่ายเงินชดเชย เนื่องจาก ยังไม่ถึงฤดูการเก็บเกี่ยว
ทั้งนี้ ในปีการผลิตที่ผ่านมา รัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยประกันราคาข้าวให้แก่เกษตรกรไปจำนวนประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือน เป็นเงินประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท ส่วนในปีนี้ ยังไม่ได้มีการประเมิน แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะต้องใช้เม็ดเงินมากกว่านั้น เนื่องจาก ราคาข้าวนาปีอยู่ในภาวะตกต่ำ
อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำไปมากกว่านี้ จะช่วย เยียวยาเกษตรกร รัฐบาลโดยธ.ก.ส.พร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าว เพื่อให้ข้าวไม่เข้าสู่ตลาดมากเกินไปจนทำให้ราคาตกต่ำ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็จูงใจด้วยการจ่ายค่ารักษาข้าวตันละ 1 พันบาทอีกด้วย