ฝนกระหน่ำเกาะสมุย! น้ำระบายไม่ทันท่วมถนนหลายจุด

ผู้สื่อข่าวมีรายงานจากอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้สภาพอากาศ ในอำเภอเกาะสมุย สภาพอากาศถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆฝน ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกบนภูเขา ได้ไหลเข้าสู่ในชุมชน และท่วมขังบนถนน หลายจุด

โดยเฉพาะถนนเส้นบ้านเชิงมนต์ -วัดปลายแหลม บริเวณหน้าโรงแรมมีเลีย เกาะสมุย หมู่ 4 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม ทำให้มีน้ำท่วมขัง บนถนนระยะทางกว่า 300 เมตร ระดับน้ำสูง ประมาณ 50 เซ็นติเมตร ทำให้รถจักรยานยนต์ รถเก๋ง สัญจรผ่านไม่ได้ ชาวบ้านที่นำรถยนต์จอดริมถนนดังกล่าว ต้องนำรถยนต์ขึ้นไปจอดบนเนินที่สูง เพื่อความปลอดภัย

     ขณะที่ถนนสายรอบเกาะสมุย บริเวณหน้าบิ๊กซี หมู่ 1 ตำบลบ่อผุด และ บนถนนหน้าปั้มน้ำมันคาลเท็ก หมุ่ 6 ตำบลบ่อผุด น้ำท่วมขังบนถนน ระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ทางตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จิตอาสาพระราชทาน ออกมาทำการเก็บขยะออกจากท่อระบายน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ ให้น้ำระบายลงท่อระยายน้ำอย่างสะดวก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งระดับน้ำที่ท่วมขังบนถนนเป็นน้ำที่รอการระบาย เนื่องจากน้ำระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ส่วนในทะเล บริเวณอ่าวบ้านเชิงมนต์ ในทะเลมีคลื่นลมแรง บริเวณชายหาดคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

 

 

     จากประกาศเตือนจากอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือน ฉบับที่ 7 (34/2564) เรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย และมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (มีผลกระทบช่วงวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2564) มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช ระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก และปริมาณฝนสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและ น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 12-13 พ.ย. 64

 

สำหรับคลื่นลมบริวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว จึงขอให้ประชาชจิดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยม วิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด