พรรคก้าวไกลหนุน “ร่าง รธน.” ภาค ปชช.โละ “ระบอบประยุทธ์” โต้ ส.ว.อย่าปัดตก
“พรรคก้าวไกล” ยันหนุน “ร่าง รธน.” ภาคประชาชน โละ “ระบอบประยุทธ์” สร้าง “สภาเดี่ยว” ขจัดอำนาจที่เหนือกว่าประชาชน โต้ ส.ว. อย่าปัดตก ใช้อำนาจไม่ยึดโยง ปชช.มาชี้เป็นชี้ตายประเทศ ชวนจับตาการอภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับจุดยืนในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาคประชาชน ที่จะมีการพิจารณาในสภาฯ ระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย. 2564 โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่แปลกใจต่อการกระทำของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (Resolutions) ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาหลายคนออกมาคัดค้าน ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวนกว่า 135,000 รายชื่อ ก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณาว่า จะรับหลักการ หรือไม่ ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ โดยมีร่างฯ นี้ ว่า ตนไม่แปลกใจที่ ส.ว. จะคัดค้าน เพราะเพราะร่างดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อโละระบอบประยุทธ์ ซึ่ง ส.ว. คือหัวใจสำคัญ แต่หาก ส.ว .มีความจริงใจที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน ส.ว. จะต้องทำความเข้าใจว่า นี่เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน ไม่ใช่มาจากการเเต่งตั้ง แต่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
“ความเข้าใจของโลกยุคเก่า การตรวจสอบถ่วงดุลมันเกิดจากการที่ผู้มีที่มีความรู้ความสามารถ ที่เชี่ยวชาญได้รับการแต่งตั้งมาตรวจสอบถ่วงดุล นี่คือ ส.ว. ที่ทำหน้าที่นี้ และหลงคิดไปเองว่า ตัวเองทำเรื่องนี้ได้ดีที่สุด แต่ในโลกสมัยใหม่คนที่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้ดีที่สุดคือประชาชน เมื่อประชาชนสามารถสะท้อนเสียงจากตัวเเทนของเขาได้อย่างเเท้จริง สามารถเข้าชื่อถอดถอนได้ และมีสิทธิ์ในการรับรู้ข่าวสารได้อย่างอิสระ นี่คือการตรวจสอบถ่วงดุล อย่างโปร่งใสที่แท้จริง” นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญของประชาชน ออกแบบการตรวจสอบถ่วงดุลในโลกสมัยใหม่ ก็คือให้ตัวแทนของประชาชนเป็นผู้ใช้สิทธิ์แทนในการตรวจสอบถ่วงดุล เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกแต่งตั้งมาเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐประหารทำลายล้างประชาธิปไตย ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีที่มาใหม่ทั้งหมด เช่น ศาลตุลาการ มาจากสภาตุลาการ ศาลฎีกา ศาลปกครองอย่างเป็นกลางในทางการเมืองได้จริงๆ ความเป็นกลางเกิดจากการที่ตัวเเทนของทุกที่ ที่แตกต่างสามารถเป็นตัวแทนที่พอๆกัน และสามารถใช้เหตุผลในการวินิจฉัยร่วมกัน ในประเด็นต่อมา ที่ส.ว. ระบุว่า ตัวเองจะทำให้การพิจารณากฎหมายนั้นรอบคอบขึ้น และตรวจสอบรัฐบาลได้ เรากำลังพูดถึงส.ว.ในอดีตในหลาย 10 ปีก่อน ในวันที่ไม่มีส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ยังมาตรา 77 ที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นในร่างกฎหมายได้ ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตที่ประชาชนสามารถเข้าชื่อเสนอกฎหมายได้ เพราะสมัยนั้น กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลเกิดขึ้นเพียงคนไม่กี่คน แต่เมื่อคนทั้งประเทศมาออกแบบการถ่วงดุลร่วมกัน และสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เหมาะสมที่สุด
“7 ปีนี้ ไม่สามารถตรวจสอบพลเอกประยุทธ์ได้เลย ไม่สามารถตรวจสอบกองทัพได้เลย และการวินิจฉัยที่ไม่เป็นไปตามหลักวิชาการและไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตยก็ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้เลย นี่เป็นกลไกลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่จะให้อำนาจและคืนอำนาจให้กับประชาชนในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล” นายปดิพัทธ์ กล่าว
ส่วนนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า ตนและพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับร่างแก้ รธน. ฉบับประชาชน เพราะร่างฯ นี้จะขจัดอำนาจที่เหนือกว่าประชาชน และจะแก้ไขปัญหาระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่มีมาตั้งแต่ปี 2490
นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้องค์กรต่างๆ มีอำนาจเหนือกว่าอำนาจของประชาชน ซึ่งร่างฯ นี้จะคืนอำนาจให้ประชาชนมีสิทธิตรวจสอบถ่วงดุลองค์กรต่างๆ ได้ และปัจจุบันการตรวจสอบถ่วงดุลในประเทศไทยยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 แล้ว ในการคัดสรรคนดี ไม่มีเบื้องหลังมานั่งในองค์กรอิสระ เพื่อตรวจสอบองค์กรต่างๆ ได้ แต่มันไม่เกิดขึ้นจริง กลายเป็นว่า องค์กรอิสระที่ตรวจสอบไม่ได้ มีที่มาจากการคัดสรรและแต่งตั้งจาก คสช. กลับมีอำนาจตรวจสอบและชี้เป็นชี้ตาย คนที่ตรวจสอบได้ ได้รับเลือกจากประชาชน เมื่อประชาชนกว่า 135,000 คนเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจประชาชนสามารถตรวจสอบได้ทั้งองค์กรอิสระ ศาล และกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายตุลาการ ที่ปัจจุบันยังไม่เคยได้รับการตรวจสอบจากรัฐสภาที่มาจากประชาชน ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจึงสำคัญมากในการทำให้การตรวจสอบถ่วงดุลเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ปรับให้เป็นประชาธิปไตยสากล ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ทั้งนี้ นายธีรัจชัย ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่าย ทั้งพรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และ ส.ว. ไม่ปัดตก ร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อให้การปกครองของประเทศนี้อยู่กับร่องกับรอย และพรรคก้าวไกลจะสนับสนุนร่างฯ นี้อย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนตั้งใจฟังอภิปรายทุกคำ เพื่อดูว่าใครยืนข้างไหน ยืนข้างประชาชนหรือยืนข้างใคร