ในหลวง โปรดเกล้าฯ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรประสบอุทกภัย ชุมพร
ในหลวง โปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรีร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชุมพร ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสวี จังหวัดชุมพร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ
วันนี้ (18 พ.ย.64) เวลา 13.55 น.พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชุมพร ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยมีนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ในการนี้ องคมนตรี เชิญพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การเกิดภัยธรรมชาติไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ น้อมนำไปปรับกำหนดแผนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้ทันท่วงทีต่อไป เสร็จแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 3,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย เพื่อเชิญไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชุมพร ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสวี จังหวัดชุมพร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย
ในโอกาสนี้ องคมนตรี เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ราษฎรที่ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ และลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองพรหม ตำบลสวี อำเภอสวี จำนวน 5 ครอบครัว กับพูดคุยให้กำลังใจ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดชุมพร แบ่งการปกครองออเป็น 8 อำเภอ 70 ตำบล 736 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำแผ่ปกคลุมภาคใต้และร่องลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่างๆ ตั้งแต่คืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสวี ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากพื้นที่ต่างๆ รวมถึงอำเภอทุ่งตะโก และอำเภอเมืองชุมพร ส่งผลทำให้เกิดน้ำฝนสะสม น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนราษฎร วัด โรงเรียน ถนน สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ ได้รับความเดือนร้อนและเสียหายใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ อำเภอท่าแซะ และอำเภอปะทิว รวม 53 ตำบล 384 หมู่บ้าน 10 ชุมชน
ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 9,847 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย และพื้นที่ทางการเกษตร (สวนผลไม้ ทุเรียน เงาะ มังคุด) สวนปาล์ม ยางพารา ได้รับความเสียหายโดยในช่วงที่เกิดฝนตกหนักทำให้ถนนสายเอเชีย หมายเลข 41 ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลัก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 34-35 (บริเวณบ้านแหลมปอ รอยต่อข้ามแม่น้ำสวี) ตำบลสวี อำเภอสวี ถูกน้ำท่วมผิวการจราจรทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่องสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลีคลายแล้ว แต่ยังมี 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าแซะ และอำเภอเมือง ที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำติดกับคลองธรรมชาติ ลำน้ำ และแม่น้ำ ยังคงมีน้ำท่วมขัง ทั้งนี้ รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ลงพื้นที่อำนวยการให้การช่วยเหลือและสั่งการให้หน่วยงานราชการ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กับประสานภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิ จิตอาสาพระราชทาน ระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาราษฎรที่ประสบอุทกภัย ให้กลับมาประกอบสัมมาอาชีพและใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข โดยเร็วต่อไป