TFM คาดกำไรปี 64 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี มั่นใจผลงานปี 65 ฟื้นตัว
TFM ประเมินแนวโน้มกำไรปี 64 จะต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับขึ้น แต่คาดรายได้รวมยังเติบโต 15% แตะ 4.7-4.8 พันล้าน มั่นใจปี 65 รายได้ฟื้นตัวต่อเนื่องเฉียด 6 พันล้าน
นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปี 2564 ผลประกอบการจะต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากผลกระทบวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นสูง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2 ปี 2564 และเริ่มเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 3 ปี 2564 เทียบกับไตรมาสก่อน
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2564 และปี 2565 คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่อง จากการปรับปรุงกระบวนการผลิต การเพิ่มผลตอบแทน การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) และการเพิ่มสัดส่วนพอร์ตที่สร้างกำไรสูง
อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะยังเติบโต 15% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,244.47 ล้านบาท มาอยู่ที่ระดับ 4,700-4,800 ล้านบาท ส่วนปี 2565 คาดว่ากำไรจะพลิกกลับมาเติบโต ขณะที่รายได้รวมคาดว่าจะเติบโตราว 1,000 ล้านบาท จากปีนี้ไปอยู่ที่ 5,700-5,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าการเติบโตจะมาจากรายได้ในประเทศประมาณ 300 ล้านบาท รายได้จากการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียที่จะรับรู้รายได้เต็มปีเป็นครั้งแรกประมาณ 400 ล้านบาท และรายได้จากการดำเนินธุรกิจในประเทศปากีสถานประมาณ 200 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 เบื้องต้นตั้งงบลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานอาหารกุ้งในมหาชัย นอกจากนี้ คาดว่าจะเห็นความร่วมมือกับบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ในกลุ่มไทยยูเนี่ยน โดยบริษัทดังกล่าวมีแผนเข้าระดมทุนตลาดหุ้นในปี 2565
สำหรับมุมมองธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า นายบรรลือศักร กล่าวว่า คาดตลาดอาหารสัตว์ยังมีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะตลาดอาหารสัตว์น้ำ จากเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมารับประทานอาหารทะเลเพิ่มขึ้น และการบริโภคโปรตีนจากปลา อีกทั้งยังมีดิสรัปจากเทคโนโลยีจำกัด
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า (2565-2569) รายได้รวมจะเติบโตแตะระดับ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap.) เติบโตแตะ 12,000-15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์