บลจ.ทิสโก้ เสิร์ฟ TNEXTGENRMF-A กองทุนนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต
บลจ.ทิสโก้ เปิด RMF ใหม่ กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TNEXTGENRMF-A) เน้นลงทุนนวัตกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต กระจายการลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์เทคโนโลยีของโลก เปิด IPO 2 – 14 ธ.ค. 64
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ เปิดเผยว่า เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี บลจ.ทิสโก้ ยังคงเดินหน้านำเสนอกองทุนนวัตกรรมแห่งอนาคตเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์ของโลก เพราะมองว่าธุรกิจกลุ่มนี้จะสามารถเติบโตต่อเนื่องตามพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอีก 10-20 ปีเป็นอย่างน้อย และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับลูกค้า ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TNEXTGENRMF-A) กองทุนรวมตราสารทุน ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีม Next Generation Internet ที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น ระบบ Cloud Computing, Big Data, Social Platforms, Blockchain, P2P, Digital Media และ Internet of Things (IoT)
โดยกองทุนนี้จะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟ ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก) บริหารจัดการโดย ARK Investment Management LLC บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 2 – 14 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก
นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า สำหรับจุดเด่นของกองทุน TNEXTGENRMF-A คือ เป็นกองทุนที่เน้น “นวัตกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต” (Next Generation Internet) ซึ่งกระจายการลงทุนไปยัง 6 ประเภทธุรกิจ คือ 1. Cloud Computing และ Cyber Security 2. E-Commerce 3. Big Data และ Artificial Intelligence (AI) 4. Mobile Technology และ Internet of Things 5. Social Platforms และ Digital Media 6. Blockchain และ P2P ซึ่งปัจจุบันธุรกิจเหล่านี้ได้เข้ามาแทรกซึมอยู่ในชีิวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง การติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน ซื้อสินค้าออนไลน์ ไปจนถึงธุรกรรมทางการเงิน สกุลเงินดิจิทัล การเรียนหนังสือ แม้กระทั่งรถยนต์อัจฉริยะ
สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุนนั้น ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 กองทุนหลักได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอินเทอร์เน็ตที่เป็นอนาคตของโลกหลากหลายประเภทซึ่งจะเข้ามาพลิกโฉมบริการและสินค้าให้เข้าสู่โลกยุคใหม่ และอาจเข้ามาแทนที่ธุรกิจดั้งเดิม ขณะที่อัตราการเติบโตของหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนหลักเข้าไปลงุทนนั้นก็มีความน่าสนใจ เช่น Tesla Inc ผู้นำนวัตกรรมรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดย Bloomberg Consensus คาดว่าในปี 2565 รายได้ของ Tesla จะเติบโต 40% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีปัจจัยบวกจากต้นทุนแบตเตอรี่ Lithium iron-phosphate ที่คาดว่าจะลดลงประมาณ 37% ตามราคาแบตเตอรี่ Nickel-rich lithium-ion
อีกตัวอย่างคือ Shopify inc แพลตฟอร์มสร้างร้านค้าออนไลน์ ซึ่ง Bloomberg Consensus คาดว่าในปี 2565 รายได้ของ Shopify จะเติบโต 32% เมื่อเทียบกับปีนี้ นอกจากนี้ ยังลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น Grayscale Bitcoin Trust กองทุนที่ดำเนินธุรกิจในด้านการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ โดยเปิดให้นักลงทุนสถาบันสามารถลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลผ่านกองทุน และ Coinbase Global Inc. (COIN) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ สัญชาติสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนซึ่งใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก