นายกฯ เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย 3 ธ.ค. นี้

นายกฯ เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย 3 ธ.ค. นี้

โฆษกรัฐบาล เผย "พล.อ.ประยุทธ์" เตรียมมอบบ้านเคหะฯ ตามโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย มุ่งมั่นให้คนไทยมีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยในวันศุกร์ ที่ 3 ธ.ค. นี้

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดเป็นประธานในพิธีส่งมอบสิทธิโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย โครงการบ้านเคหะสุขประชา ณ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ในวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค. 64)

ซึ่งปัจจุบันโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า อยู่ระหว่างดำเนินโครงการนำร่อง 2 โครงการ  ได้แก่

  • โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า
  • โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้เสนอ “โครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย” ให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยการเคหะแห่งชาติ ดำเนินโครงการดังกล่าวภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” โดยมีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2564 - 2568) กำหนดส่งมอบปีละประมาณ 20,000 หน่วย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ

ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) อีกทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579) ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว (Housing for all)

 

นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้นโยบายนอกเหนือจากการเช่าอยู่อาศัยในโครงการบ้านเคหะสุขประชาแล้ว ยังได้สร้างเศรษฐกิจชุมชนคู่ขนานกันไป “มีบ้าน - มีอาชีพ - มีรายได้ – มีสุข” ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้สามารถประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ดังนั้น การเคหะแห่งชาติ จึงได้จัดสรรโซนนิ่ง โดยนอกเหนือจากโซนที่พักอาศัยภายในโครงการยังจัดให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่สันทนาการ พื้นที่จอดรถ และพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ มีจำนวน 6 รูปแบบ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก - ส่ง โดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยประกอบอาชีพอิสระในชุมชน

รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้นๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย ส่วนโครงการในพื้นที่ภูมิภาคจัดให้มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และกสิกรรม เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนต้องการช่วยลดภาระของผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะจากผลกระทบโควิด-19 ที่ยาวนานเกือบ 2 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลรายได้ของประชาชนลดลง ทำให้โอกาสที่จะซื้อบ้านก็ยากขึ้น จึงมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติ ดำเนินการทำบ้านสำหรับเช่าเป็นหลักสำหรับผู้มีรายได้น้อยพร้อมจัดให้มีพื้นที่เศรษฐกิจสุขประชา เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพแก่ผู้เช่า พร้อมย้ำว่า คนไทยทุกคนต้องมีบ้านอยู่โอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์