อัพเดท! "เจ้าสัวเปรมชัย" ถึงศาลแล้ว! ย้อนรอย "คดีล่าเสือดำ" ฎีกาชี้ชะตาวันนี้
เกาะติดอัพเดท "เจ้าสัวเปรมชัย" ถึงศาลแล้ว! ลำดับเหตุการณ์ ย้อนรอย "คดีล่าเสือดำ" ในเขตรักษาพันธู์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก่อนถึงวันศาลฎีกาชี้ชะตา วันนี้ 8 ธ.ค. 64
ติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีสุดอื้อฉาว นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) หรือ "เจ้าสัวเปรมชัย" พร้อมกับพวกรวม 4 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาล่าสัตว์ "คดีล่าเสือดำ" ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.2561 จนกลายเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ และติดตามว่าบทสุดท้ายของคดีนี้จะจบลงอย่างไร
ล่าสุดเช้านี้ (8 ธ.ค. 64) ตัวแทนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เดินทางมาร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษา ศาลทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 ก่อนเดินเข้าไปในศาล
ต่อมา เวลา 09.00 น. นายเปรมชัย ได้เดินทางมาถึงที่ศาล โดยได้ใส่ผ้าพันแผลที่ตา โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ทว่า ก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธู์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในวันที่ 8 ธันวาคม 2564
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จะย้อนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคดีนี้มีความเป็นมาเป็นไรอย่างไรบ้าง
- 3 ก.พ. 2561
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด และกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมพวก รวม 4 คน เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยมีจุดหมายเข้าไปพักแรม
- 4 ก.พ. 2561
เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราชรายงานว่า คณะของนายเปรมชัย ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพิสูจน์ทราบ และได้ตรวจพบอาวุธปืนพบซากไก่ฟ้าหลังเทากับเนื้อเก้งที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 5 ก.พ. 2561
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตรวจพื้นที่ตั้งแคมป์เพิ่มเติม พบหนังเสือดำถูกถนอมซากโดยการทาเกลือ ยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้ภายบริเวณแคมป์ที่พัก
- 6 ก.พ.2561
นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำนายเปรมชัยและพวก เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมนำหลักฐานบันทึกการจับกุม แจ้ง 9 ข้อกล่าวหา กับนายเปรมชัยและพวก แต่นายเปรมชัย และพวกให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง โดยได้ประกันตัวออกมาในวงเงินคนละ 150,000 บาท แต่ต้องมารายงานตัวตามกำหนดฝากขัง 7 ครั้ง
- 7 ก.พ. 2561
พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเก็บหลักฐานตามจุดที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต หรือ "เจ้าสัวเปรมชัย" ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. นำตำรวจ ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเปรมชัยที่ซอยศูนย์วิจัย 3 กรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 49/2561 ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในบ้าน ตรวจพบอาวุธปืน 43 กระบอก และงาช้าง 4 กิ่ง แต่ไม่พบตัวนายเปรมชัย
- 8 ก.พ. 2561
หน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ รับชิ้นเนื้อสัตว์ป่าในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ DNA ว่าเป็นของสัตว์ชนิดใด
- 9 – 28 ก.พ. 2561
พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ และชุดพญาเสือ ลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ขณะเดียวกันกองนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ เริ่มตรวจหา DNA จากชิ้นเนื้อที่พนักงานสอบสวนส่งมาให้ตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าเนื้อทั้งหมดเป็นเสือดำตัวเดียวกันและเป็นเสือดำตัวเมีย นอกจากนี้ยังพบร่องรอยกระสุนจำนวน 8 รู บนหนังเสือดำและกะโหลกเสือดำ
ในระหว่างนั้นมีการตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์เพิ่มอีกหนึ่งข้อหา แต่ได้หลุดไปเนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” พบว่าไม่เข้าตามคำนิยามของตามพ.ร.บ.การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 โดยสัตว์ป่าที่อยู่ในป่ามีพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ใช้บังคับอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงทั่วไป
- 2 มี.ค. 2561
นายเปรมชัย และพวกอีก 3 คน เดินทางมาให้ปากคำครั้งแรกที่ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ก่อนถึงกำหนดหมายเรียกวันที่ 5 มี.ค. 2561 เนื่องจากตัวนายเปรมชัย และลูกน้องอีก 3 คน ได้เลื่อนนัดรายงานตัวมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ก.พ. และครั้งที่ 2 คือวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการขัดหมายเรียกระหว่างได้รับประกันตัว ซึ่งหากนายเปรมชัยไม่มาตามหมายเรียกในวันที่ 5 มี.ค. นี้ พนักงานสอบสวนจะทำหนังสือถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อขอถอนประกันต่อไป
- 13 มี.ค. 2561
ตำรวจ สรุปสำนวนส่งให้อัยการภาค 7 มีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูตร และพวกรวม 4 คน ใน 9 ข้อหา ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 มีข้อกล่าวหาดังนี้ 1.ความผิดฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง 3.ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 4.ฐานร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่า 6.ฐานร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์เข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 7.ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 8.ฐานร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวน และ 9.ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
- 14 มี.ค. 2561
ศาลอาญามีคำสั่งให้ประกันตัว นายเปรมชัย กรรณสูต หรือ "เจ้าสัวเปรมชัย" พร้อมพวกรวม 4 คน ลักลอบล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังจากถูกแจ้งดำเนินคดี 9 ข้อหาตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแล้ว
- 30 เม.ย. 2561
อัยการภาค 7 ได้แถลงผลการพิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก รวม 4 คน ตามคำชี้ขาดอัยการสูงสุด ประกอบด้วย สั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 6 ข้อหา นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 7 ข้อหา นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 จำนวน 5 ข้อหา และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 จำนวน 8 ข้อหา ในส่วนที่มีเพิ่มเติมเข้ามานั้น ครั้งนี้ อัยการภาค 7 ได้เพิ่มค่าเสียหายทางอาญา จากเดิมที่ให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ชดใช้ จำนวน 462,000 บาท เพิ่มเป็น 3,012,000 บาท โดยใช้วิธีคิดจากราคาจัดซื้อเสือดำของสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2549 บวกกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพื่อนำเสือดำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดย ในวันนี้ 2 พฤษภาคม นายเปรมชัยและพวก ต้องเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามครบกำหนดผลัดฟ้องฝากขังผัดสุดท้าย และศาลจะนัดสืบพยานทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลย เพื่อไต่สวนมูลฟ้องต่อไป
- 2 พ.ค. 2561
นายเปรมชัย พร้อมพวก เดินทางไปรายงานตัวต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามกำหนดฝากขังผลัดที่ 7 (ครั้งสุดท้าย) นายเปรมชัยและพวก จำเลยทั้ง 4 คน ได้เข้ารับฟังการพิจารณาคดีภายในห้องพิจารณาคดี 1 ทางศาลได้สอบคำให้การ โดยอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยทั้ง 4 คนฟังว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ หากรับสารภาพศาลก็จะสามารถดำเนินการตัดสินคดี จำเลยทั้ง 4 คน ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจำเลยทั้ง 4 คน ไม่ได้มีการแต่งตั้งทนายความ ศาลจึงได้นัดจำเลยทั้ง 4 คน เดินทางมาฟังการแถลงคดีอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคม 2561
- 21 พ.ค. 2561
คดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้เดินทางมาถึงกระบวนขั้นตอนในชั้นศาล นายเปรมชัย กรรณสูต และพวก ประกอบด้วย นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ จำเลย ที่ 1 – 4 พร้อมด้วยนายวิฑูรย์ พรายแย้ม ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามหมายนัดสืบพยาน การนัดหมาย ทางศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดมาเพื่อสืบพยานหลักฐาน สอบคำให้การ และตรวจพยานเอกสาร แต่ทนายความของจำเลยที่ 2 และ 4 ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากติดว่าความคดีอื่น จำเลยจึงขอเลื่อนเวลาออกไป ซึ่งศาลได้นัดตรวจพยานออกไปเป็นวันที่ 6 มิถุนายน 2561
- 6 มิ.ย. 2561
นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก 4 คน จำเลย เดินทางมาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ ศาลทองผาภูมิได้นัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน แต่ทนายความของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องโดยอ้างว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ถูกฟ้องในคดีอาญา ทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 (ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน) ซึ่งได้แถลงว่าคดีนี้น่าจะเกี่ยวพันกับคดีดังกล่าว จึงขอให้ศาลส่งคดีนี้ไปให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลดังกล่าวหรือไม่ ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้ส่งคดีนี้ไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยก่อน จึงให้เลื่อนนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ซึ่งจะนัดโจทก์และจำเลยมาพร้อมกัน เพื่อรอฟังผลวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่ง
- 27 ส.ค. 2561
ประธานศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ดังนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ จะได้นัดวันสืบพยานต่อไป โดยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ระบุว่าศาลจะเริ่มนัดสืบพยานโจกท์วันที่ 27 พฤศจิกายน จนกระทั่งแล้วเสร็จจึงจะสืบทางด้านจำเลยต่อให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 ธันวาคม
27 พ.ย. – 18 ธ.ค. 2561
ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานโจทก์ ทั้งหมด 32 ปาก รวม 10 นัด ตั้งแต่วันที่ 27-30 พ.ย. 2561 วันที่ 6-7 ธ.ค. 2561 วันที่ 11-13 ธ.ค. 2561 และวันที่ 18 ธ.ค. 2561 โดยในระหว่างการสืบพยานฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ทางด้านศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีการวางข้อกำหนดเอาไว้ว่า ห้ามฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ นำข้อมูลต่างๆ ในห้องพิจารณาคดีออกมาเผยแพร่ภายนอกโดยเด็ดขาด
- 19 – 26 ธ.ค. 2561
นัดสืบพยานจำเลย เดิมกำหนดนัดสืบพยานจำเลยทั้งหมด 17 ปาก แต่จากที่ได้สืบพยานโจทก์ไปก่อนหน้านี้และเพราะมีบ้างปากซ้ำกับพยานของฝ่ายโจทก์ โดยทนายความฝ่ายจำเลยได้ซักค้านไปแล้ว จึงได้ข้อสรุปว่าจะเหลือการสืบพยานจำเลยเพียง 6 ปาก อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้ง 4 คนในคดี ได้สืบพยานจำเลยเพียง 3 คน เท่านั้น โดยจำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ ไม่ได้ขึ้นสืบพยาน เนื่องจากป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและเวียนศีรษะไม่สามารถเบิกความได้
-
26 ธันวาคม 2561 ยื่นแถลงการณ์ปิดคดี
-
19 มีนาคม 2562
ฟังคำพิพากษา ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยมีคำพิพากษา
จำเลยกระทำผิดพิพากษาจำคุก นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 รวม16 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 รวม13 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี และจำคุก นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 รวม 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา และให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้เสียหายด้วย
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจำคุก นายเปรมชัย กรรณสูต รวม 2 ปี 14 เดือน นายยงค์ โดดเครือ รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน นางนที เรียมแสน จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วน นายธานี ทุมมาศ จำคุกรวม 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัย นายยงค์ และนายธานี ให้จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แก่ผู้เสียหายรวม 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีด้วย
ศาลอนุญาตให้ประกันตัว นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 โดยเพิ่มหลักทรัพย์อีกคนละ 2 แสนบาท ระหว่างฎีกาโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
กระบวนการชั้นฎีกา
- 11 มี.ค. 63 นายเปรมชัย พร้อมพวก ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา เป็นครั้งที่ 3 และศาลพิจารณาให้ขยายเวลาได้ถึงวันที่ 10 เม.ย. 63
- 12 มี.ค. 63 เป็นวันครบกำหนดการขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาของอัยการโจทก์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้รายงานถึงความคืบหน้าการพิจารณาการยื่นฎีกาคดีร่วมกันล่าเสือดำ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เพิ่มโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา นายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คน ว่าพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โจทก์ ได้เดินทางไปยืนยันต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ว่าไม่ขอฎีกา เนื่องจากได้มีการตรวจสอบ พิจารณาประเด็นและเหตุผล รวมทั้งบทลงโทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาแล้ว เห็นว่าครบถ้วนตามที่อัยการโจทก์ได้ฟ้องไป จึงมีความเห็นไม่ยื่นฎีกาอีก ซึ่งตามขั้นตอนก็ได้ส่งความเห็นนี้ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เพื่อพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา145/1 เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดย ผบช.ภ.7 ได้ส่งความเห็นกลับมาแล้วว่า เห็นตรงตามอัยการ ดังนั้น ความเห็นจึงเป็นที่ยุติแล้วว่าไม่ฎีกาเกี่ยวกับผลคดีดังกล่าวอีกต่อไป เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นฎีกาของจำเลย อัยการโจทก์จะพิจารณาแก้ประเด็นฎีกาของจำเลย
- 1 เม.ย. 63 นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โดยผู้พิพากษาได้รับรองอนุญาตให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ส่วนแม่ครัว จำเลยที่ 3 คดียุติตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 เนื่องจากอัยการโจทก์และจำเลยที่ 3 ไม่ติดใจยื่นฎีกา
- 16 เม.ย. 63 มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้สอบถามความคืบหน้าการยื่นฎีกาของจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ยังศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้ความว่า นายเปรมชัย และพวก ได้ทำการยื่นฎีกา เพื่อต่อสู้คดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 8 ธ.ค.64 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีล่าสัตว์ป่า จับตา "เจ้าสัวเปรมชัย" !?
ข้อมูล : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร