รักษาการผู้ว่าฯ ตาก สั่งเฝ้าระวังพื้นที่พักพิงฯ 24 ชม. หวั่นเกิดจราจลซ้ำ
รักษาการผู้ว่าฯตาก สั่งเฝ้าระวังเข้ม 24 ชั่วโมง พื้นที่พักพิงฯแม่หละ เกรงเกิดจราจลซ้ำ เน้นย้ำใช้หลักการสมานฉันท์คุยผ ตัวแทนผู้ลี้ภัย ขณะที่ปลัดอำเภอคู่กรณี และเจ้าหน้าที้อส.ถูกให้ออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์ชุมนุมในพื้นที่พักพิงฯบ้านแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้ก่อเหตุจราจล เผาและทำลายทรัพย์สินของราชการ ในพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยทางการสู้รบ บ้านแม่หละ ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ตาก ที่ดูแลพื้นที่ ส่งผลให้มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ของทางการไทย ที่เข้าควบคุมความสงบมีผู้บาดเจ็บ 4 คน เป็นผู้ลี้ภัยทั้งหมด ขณะที่ทรัพย์สินของราชการถูกพังและเผาทำเสียหายหลายรายการ โดยเหตุเกิดขึ้น เมื่อค่ำคืนวันที่ 14 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายนายยงยุทธ สุขสิริ นายอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้มีการเข้าพื้นที่พูดคุยกับตัวแทนผู้ลี้ภัย นำโดยผู้นำชุมชนและผู้นำทางจิตวิญญาณ โดยมีการเปิดรับข้อเสนอของผู้ลี้ภัย เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขการดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการก่อจราจลซ้ำ และเพื่อให้อยู่กันอย่างสงบสมานฉันท์ บรรยากาศ ผู้ลี้ภัยต่างมีการยื่นข้อเรียกร้องหลายข้อ โดยเฉพาะข้อสำคัญคือได้ให้ปลัดอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ฯ และเจ้าหน้าที่ชุดที่มีปัญหากับผู้ลี้ภัยออกจากพื้นที่ พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ชุดใหม่เข้ามาทำงานแทน
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก ได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรท่าสองยาง รวมถึงสภ.อำเภอใกล้เคียง เตรียมกำลังชุดควบคุมฝูงชนให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งขอความร่วมมือการทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันหากเกิดเหตุจราจลอีกครั้ง สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยมีกำลังเสริมจากตชด.344 แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และทหารพราน 3503 อำภอท่าสองยาง จังหวัดคาก
ล่าสุด นายยงยุทธ สุขสิริ นายอำเภอท่าสองยาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้ได้สู่ความสงบแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในช่วงเช้าได้มีการติดต่อประสานงาน พูดคุยกับผู้นำชุมชนหรือผู้จิตวิญญาณของผู้ลี้ภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มีข้อสั่งการ ให้ใช้วิธีการพูดคุยความเข้าใจด้วยความสมานฉันท์ ซึ่งอาจมีจุดที่ผู้ลี้ภัยอาจยังไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือสับสนในบางประการ การพูดคุยนี้เพื่อให้เข้าใจตรงกัน เพื่อป้องกันการเกิดจราจลซ้ำอีกครั้ง เพราะแม้ว่าสถานการณ์จะสงบลง แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันได้มีการย้ายปลัดที่ดูแลศูนย์ฯ กับเจ้าหน้าที่ อส. ที่กำลังมีปัญหากับผู้ลี้ภัยออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย และการโยกย้ายในอนาคตหรือการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนที่เกิดขึ้นต่อไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เกิดจากการที่วัยรุ่นในศูนย์ผู้ลี้ภัยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือเอาหน้ากากอนามัยไว้ใต้คาง เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการตักเตือน และบอกให้ใส่ให้ดี แต่ทางกลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจจึงเกิดการกระทบกระทั่ง พร้อมกับมีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมากจึงมีการปลุกระดมกันออกมาก่อจราจล ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่อส. กดดันผู้ลี้ภัยจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เพือเสนอคณะกรรมการต่อไป
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านหรือผู้ลี้ภัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ในช่วงเย็นชาวบ้าน จะมีการนำรถจักรยานยนต์และตู้เย็น เข้าไปใช้ในหมู่บ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่อส. ไม่ยอมให้เข้า จึงทำให้เกิดกระทบกระทั่งและตู้เย็นตกพังเสียหาย พร้อมทั้งยึดรถจักรยานยนต์ชาวบ้านเอาไว้ จึงทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ เพราะก่อนหน้านี้มีหลายเรื่องที่เจ้าหน้าที่กดดันชาวบ้าน จนทำให้เกิดความอัดอั้นตันใจสะสมมาตลอด จึงทำให้เกิดการปะทุขึ้น พวกตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สุดท้ายอยากจะพูดคุยกับทางการและช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้