"เชียงใหม่" พบผู้ติดเชื้อโควิด 65 ราย ไม่พบการแพร่ระบาดในครอบครัวเพิ่ม
สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่ 65 ราย ไม่พบการแพร่ระบาดในครอบครัวเพิ่ม ด้านผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงและยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 64 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 65 ราย และต่ำกว่า 100 รายต่อเนื่องมากว่า 10 วันแล้ว
โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 2 ราย ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 4 ราย จาก 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ใหม่ 2 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์ J&T Express หมู่ 2 ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ 1 ราย ยอดรวม 3 ราย และคลัสเตอร์โกลบอลเฮ้าส์ หมู่ 11 ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี 1 ราย ยอดรวม 2 ราย และคลัสเตอร์เดิมที่ยังระบาดต่อเนื่องอีก 1 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์มายเพลสอพาร์ทเม้นท์ สาขาเวียงบัว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย จากคลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร โดยวันนี้ไม่พบการแพร่ระบาดในครอบครัว
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ทั้ง 2 ราย เป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในครอบครัว และยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยรายแรก เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 56 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน วันที่ 26 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไอ หายใจลำบาก วันต่อมา ตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จนกระทั่งวันที่ 18 ธันวาคม ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง
อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 58 ปี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดแอสตราเซเนกา เพียง 1 เข็ม โดยวันที่ 25 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ หายใจลำบาก วันต่อมาเข้ารับการตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 รับรักษาที่ โรงพยาบาลเชียงใหม่เมดิคอล วันที่ 3 ธันวาคม เหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 19 ธันวาคม ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง
จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวให้เข้ามารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากวัคซีนสามารถลดการป่วยหนักและการเสียชีวิตให้กับผู้ที่ติดเชื้อได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหากเกิดการติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรง และทำให้เสียชีวิตได้ง่าย