เคาะระเบียบใช้ รถ EV หน่วยราชการ ครม.สรุปชัดใครจ่ายค่าชาร์จ รถไฟฟ้า
ครม.ถกจบระเบียบใช้รถอีวี ในหน่วยงานราชการ คลังให้เบิกค่าชาร์จไฟฟ้าที่หน่วยงานได้หากเป็นรถใช้ในราชการ ถ้าเป็นรถประจำตำแหน่งให้ผู้ใช้รถจ่ายเอง สั่ง 4 หน่วยงานเร่งทำระเบียบให้ชัด ให้หน่วยราชการจัดซื้อจัดจ้างรถอีวีมาใช้ได้โดยเน้น HEV /PHEV ในระยะแรก
รัฐบาลกำลังมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมการการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (Electic Vehice: EV) หรือ “อีวี”ในประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีวีที่สำคัญของโลก และเป็นฮับรถอีวีของอาเซียนโดยมีเป้าหมายในลำดับแรกว่าภายในปี 2573 จะต้องมีการผลิตรถอีวีในประเทศให้ได้ 30% ของปริมาณการผลิตรถยนต์ในประเทศทั้งหมด
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมการใช้รถอีวีในประเทศเพิ่มขึ้นหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยราชการจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมนโยบายนี้ ที่ผ่านมามีการหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหลายครั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องมารายงานให้ทราบ
ล่าสุดได้ข้อสรุปที่สำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้รถอีวี ในหน่วยงานราชการซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือเวียนแจ้งครม.รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญคือเรื่อง "การนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ" ตามที่ครม.เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาเคยมีมติ เรื่องการนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานฟฟ้ามาใช้ในราชการ แต่ยังมีข้อสงสัยในรายละเอียดปฏิบัติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าการชาร์จไฟฟ้าที่จะต้องจ่ายเป็นค่าประจุไฟฟ้าเมื่อมีการชาร์จรถอีวีในสถานที่ราชการ
ทั้งนี้ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ครม.ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้เพิ่มเติม โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ขี้แจงว่า การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประจุไฟฟ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในสถานที่ราชการสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบของทางราชการ
โดยกรณีที่เป็นการเช่ารถยนต์ส่วนกลาง การเบิกจ่ายค่าบริการประจุฟฟ้าถือเป็นค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการ เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. 2553 ส่วนกรณีที่เป็นรถยนต์ประจำตำแหน่ง ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเอง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523
ทั้งนี้ ครม.ได้รับทราบข้อชี้แจงของ รมว.คลังและได้มีการสั่งการให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่าในส่วนของการนำรถอีวี มาใช้ในส่วนราชการนั้น ครม.อนุมัติเป็นหลักการว่า ในระหว่างที่โครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการใช้รถอีวียังไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้ทุกส่วนราชการสามารถจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์(รถตู้หรือรถกระบะ) สันดาปภายใน หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hyorid Electic Vehicle: HEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plugin Hyorid Electic Vehice: PHEV) ไปพลางก่อนได้ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
โดย ครม.ให้เน้นรถยนต์ HEV หรือ PHEV เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายในการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างน้อย 30% ภายในปี 2570