เชียงใหม่แจ้ง “วัดเจ็ดยอด” เสี่ยงโควิด-19 ผู้ที่ไป 25-28 ธ.ค. สังเกตอาการ
เชียงใหม่ ประกาศสถานที่เสี่ยง “วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง” แจ้งผู้ที่มีประวัติเดินทางไประหว่าง 25-28 ธ.ค. สังเกตอาการตนเอง และเข้ารับการตรวจหาเชื้อหากมีอาการผิดปกติ ย้ำประชาชนไม่ประมาทในระยะนี้ เพราะเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน" แพร่กระจาย ติดต่อกันได้ง่าย
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 64 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 "เชียงใหม่" ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 56 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 3 ราย อีก 53 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 12 ราย ได้แก่
- คลัสเตอร์ร้านฮอมบาร์ 3 ราย เป็นกลุ่มวัยทำงาน เข้าไปใช้บริการวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา
- คลัสเตอร์ใหม่ พนักงานร้านต่าง ๆ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล 3 ราย
- คลัสเตอร์วัดเจ็ดยอด ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย
- คลัสเตอร์ใหม่ ร้านขายของเก่า 108 Recycle ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ 1 ราย, คลัสเตอร์ร้านพอใจ บาร์ นิมมานเหมินทร์ ซอย 7 1 ราย
- คลัสเตอร์ใหม่ งานเลี้ยงวันเกิด หมู่ 3 ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 1 ราย
- คลัสเตอร์ร้านโสภา คาเฟ่ 1 ราย ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2 ราย ได้แก่
- คลัสเตอร์ตลาดประตูเชียงใหม่ 1 ราย ยังคงเป็นพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด
- คลัสเตอร์ร้านเลอเนิร์ฟ คาเฟ่ ช้างเผือก 1 ราย ขณะที่การติดเชื้อในกลุ่มครอบครัว ไม่พบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่
นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อ จากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 18 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 21 ราย
โดยในวันนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ขอประกาศสถานที่เสี่ยงเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ "วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง" ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยขอให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไประหว่างวันที่ 25-28 ธันวาคม 2564 ให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน นับจากวันสัมผัสเสี่ยงวันสุดท้าย หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน" ในประเทศไทย ขณะนี้ได้พบเพิ่มขึ้น และมียอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศกว่า 500 รายแล้ว โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการ ส่วนใหญ่จะมีอาการไอ เจ็บคอ ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก และได้กลิ่นลดลง ตามลำดับ ประกอบกับกรมควบคุมโรค ได้คาดการณ์สถานการณ์ในประเทศไทยหลังเทศกาลปีใหม่ว่าหากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังไม่ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ประชาชนการ์ดตก ย่อหย่อนต่อมาตรการป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้เพิ่มสูงถึง 3 หมื่นราย
แต่ถ้าการฉีดวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น และประชาชนยังคงปฏิบัติการตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ลดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อลงได้ จึงขอเน้นย้ำประชาชนต้องไม่ประมาทในระยะนี้ เพราะเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แพร่กระจายหรือติดต่อกันได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม