นายกฯ ห่วงกรณีพบคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ ย้ำจนท.เพิ่มความเข้มงวด
นายกฯ ห่วงกรณีพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ รวมถึงกรณีลักลอบเปิดสถานบันเทิงขายแอลกอฮอล์ในหลายจังหวัด ย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย หากพบมีการละเว้นต้องถูกลงโทษ ผู้ประกอบการยึด Covid Free Setting เคร่งครัด
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในภาพรวมจากกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวัน
โดยพบว่าในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายจังหวัดมีสถานการณ์น่าเป็นห่วง กล่าวคือมีการแพร่ระบาดลักษณะเป็นคลัสเตอร์จากร้านอาหารกึ่งผับ และการลักลอบเปิดสถานบันเทิงขายแอลกอฮอล์ ซึ่งเมื่อสอบสวนโรคก็พบว่าร้านที่เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ไม่ว่าจะเป็นภายในร้านจัดที่นั่งแออัด
ไม่เว้นระยะห่าง ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี พนักงานไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการจำหน่ายสุราและแสดงดนตรีโดยไม่เคร่งครัดตามแนวทางที่กำหนด ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
จากรายงานดังกล่าว นายกรัฐมนตรีมีความกังวล โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการกวดขัน บังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบ โดยเฉพาะกรณีลักลอบเปิดสถานบันเทิงหากพบการกระทำผิดต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่เองที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แสวงหาประโยชน์จากช่วงสถานการณ์นี้จะต้องถูกลงโทษทางวินัยต่อ
“จากที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้พบกรณีการไม่ปฏิบัติตามมาตรการ รวมถึงมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายลักลอบเปิดสถานบันเทิง จนร้านกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ ท่านนายกรัฐมนตรีกังวลในเรื่องนี้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มงวดในทุกด้าน ผู้ประกอบการเองก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพไปพร้อมกับการที่ผู้ประกอบการยังทำธุรกิจได้ลูกจ้างยังมีงานทำ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว