“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดีแม่ทำร้ายลูก 6 ขวบดับ

 

จากเหตุการณ์พบศพเด็กชายอายุ 6 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เก๋งจอดอยู่ริมถนนภายในชุมชนแหลมทองหลาง ม.5 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 19.30 น.ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด ทางพล.ต.อสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. , พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร..,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ รศ.พล.ต.ต.ดร.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จว.ตราด ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงภายในครอบครัว , การทารุณกรรมเด็ก และประชาชนให้ความสนใจ

โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผอ.ศพดส.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบตร. รอง ผอ.ศพตส.ตร. และคณะนายตำรวจ พร้อม พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จ.ตราด ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการทารุณกรรมเด็กจนถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 1 มค.65 ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล สั่งการให้ชุด ศพตส.ตร.ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 ภ.จว.ตราด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมงอบ ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กชายสายฟ้า ถนอมวงษ์ วัย 6 ขวบ

ล่าสุดวันที่ 5 ม.ค.2565  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบตร. รอง ผอ.ศพดส.ตร. แถลงข่าวว่า หลังปรากฎในสื่อต่างๆ ว่านายปัญญา ชัยเชียงเอม เป็นผู้ลงมือทำร้ายดช.สายฟ้า จนเสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุมีการเสพยาไอซ์ และทำร้ายจนเสียชีวิตตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น วันนี้ความจริงปรากฎชัดเจน หลังการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อมและพยานวัตถุ ทำให้นำไปสู่การจับกุมตัวนางนลินรัตน์ ถนอมวงษ์ ภรรยาของนายปัญญา และมารดาแท้ของดช.สายฟ้า ไปสอบปากคำ จนนางนลินรัตน์ จำนนต่อพยาน หลักฐาน และให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือทำร้ายบุตรชายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพมาใส่รถยนต์เก๋ง ที่ใช้เป็นที่ให้ดช.สายฟ้านอนมานานเป็นปี

จากการสอบสวนนางนลินรัตน์ ยอมรับสารภาพว่า วันที่ 1 ม.ค.65  ไปปลุกดช.สายฟ้าในรถยนต์ที่ใช้เป็นที่นอน พบดช.สายฟ้า อุจาระเปรอะเปื้อนรถยนต์ จึงใช้ไม้แขวนเสื้อที่เป็นไม้ ตีที่ศีรษะ และตามร่างกายหลายครั้งจนไม้แขวนเสื้อหัก และต่อมา ดช.สายฟ้าก็มานอนในรถตั้งแต่เวลา 21.00น. วันที่ 1 มค.65 เช้าวันที 2 มค.65 ไปปลุกลูก พบว่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่แจ้งตำรวจเพราะตกใจกลัว จนชาวบ้านทราบเรื่องจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ และแจ้งตำรวจดังกล่าว  ส่วนนายปัญญาที่ส่งศาลฝากขังเมื่อวันที่ผ่านมา ในข้อหาทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แต่จากรูปคดี ปรากฎว่า นางนลินรัตน์เป็นผู้ลงมือเอง จึงต้องสอบปากคำเพิ่มเติม 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า วันนี้สถานการณ์ความรุนแรงในสังคมมีมากขึ้น อยากจะบอกพ่อและแม่ไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจึงต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สูญเสียมากคือการเสียชีวิตของเด็ก ขณะเดียวกันวันนี้สิทธิของเด็กมีมาก เด็กมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายที่พ่อและแม่ไม่สามารถไปล่วงละเมิด หรือทำรุนแรงได้ พ่อแม่ไม่ได้เป็นเจ้าของในตัวเด็กทั้งหมด และยังมี พ.ร.บ.ความรุนแรงของเด็ก ที่มีการดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ขอเตือนว่าพ่อแม่เด็กต้องคำนึงถึง คดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อนอะไร นางนลินรัตน์ อาจโกรธแค้นสามีเดิมเลยมาลงกับลูก  

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ทำเป็นอุทาหรณ์ให้ในเรื่องนี้ โดยสถานศึกษา สถาบันครอบครัวต้องสอนว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ขณะที่การคลี่คลายคดีนั้น ทางตำรวจสืบสวนภาค 2 และชุด ศพดส.ตร.ได้นำตัวพ่อแม่มาสอบสวนเพื่อหาความจริง และทางพ่อได้ยอมรับสารภาพ แต่เมื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ชาวบ้านได้ให้ข้อมมูลเพิ่มเติมว่าพ่อไม่น่าจะเป็นผู้ทำร้าย เพราะแม่เป็นผู้มีอารมณ์รุนแรง จึงได้ทำการตรวจหาความจริงอีกครั้ง สุดท้ายถูกกดดันมาก ประกอบกับ พมจ.ตราด ได้เข้ามารับลูกไปดูแล จึงได้ยอมรับสารภาพออกมา

สำหรับบุตรสาววัย 11 เดือน ของนายปัญญา และนางนลินรัตน์ มอบให้อยู่ในความดูแลของพมจ.ตราด โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวไปพลางก่อน สุดท้ายฝากบอกประชาชน เด็กมีสิทธิในตนเอง พ่อแม่ จะกระทำการทำร้ายตบตีให้เกิดการบาดเจ็บไม่ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง พบเห็นการกระทำดังกล่าวแจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) สายด่วน 1599 ได้ตลอดเวลา

 

ด้านนพ.อ.นิรุต วรวาท แพทย์นิติเวช รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี กล่าวว่า การบาดเจ็บที่พบหลักๆจะอยู่ที่ศรีษะ ซึ่งยังพบรอยฟกช้ำที่ร่างกาย ส่วนศรีษะมีบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ แต่ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นมาจากบาดเเผลจากที่ศรีษะใหม่ ที่แตกร้าว สมองฟกช้ำ ทั้งนี้ไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก แต่เกิดมาเป็นระยะๆต่อเนื่องสะสมมาตลอดซึ่งใกล้เคียงกับคำรับสารภาพที่แม่ได้ยอมรับ