ศาลลงโทษผู้พิพากษา "รองอธิบดี" เมาแล้วขับ 4 ข้อหา ปรับ 14,500 บาท
คดีดัง ศาลแขวงเชียงใหม่ ลงโทษผู้พิพากษา "รองอธิบดี" เมาแล้วขับ 4 ข้อหา ปรับ 14,500 บาท
เพจเฟซบุ๊ก "สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก รายงานความคืบหน้า การดำเนินคดีกับชายในคลิปซึ่งขับรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัย และอ้างตัว เป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาแล้ว โดยรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องตามความผิด 4 ข้อหา และศาลแขวงเชียงใหม่มีคำพิพากษาลงโทษปรับ 14,500 บาท
โดยข้อความระบุว่า จากภาพข่าวในสื่อสำนักข่าวออนไลน์พาดหัวข่าว "ชายที่ถูกถ่ายคลิปเผยแพร่ ภายหลังเกิด เหตุรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัยที่แยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และอ้างตัวเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษา ไม่ยอมให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากเครื่องเป่าแอลกอฮอล์" ซึ่งเป็นคดีที่ สังคมให้ความสนใจนั้น
สภ.เมืองเชียงใหม่ ขอชี้แจงว่า ด้วยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 23.28 น. ได้ เกิดเหตุนายชาญศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ได้ขับรถยนต์อีซูชุ รุ่น Mu x เฉี่ยวชนกับรถยนต์สามล้อรับจ้างสาธารณะแล้วหลบหนีไป และต่อมาในเวลา 23.33 น. ได้เฉี่ยวชนอีกครั้งกับรถยนต์เก๋งชูซูกิ รุ่นสวิฟ บริเวณสี่แยกแสงตะวัน (ข้างกำแพงวัดศรีดอนไชย) ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่สาย
ตรวจเขตและพนักงานสอบสวนเวรได้ออกตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับนำตัว นายชาญศักดิ์ ผู้ขับขี่รถยนต์อีชูชุ รุ่น Mu x และนายไพโรจน์ ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ชูชูกิ รุ่นสวิฟ มายัง สภ.เมืองเชียงใหม่ และได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด โดยนายไพโรจน์ ได้ยินยอม ให้ตรวจวัดซึ่งค่าผลตรวจวัดออกมาเป็นศูนย์ ส่วนนายชาญศักดิ์นั้น ไม่ยินยอมให้ตรวจวัด พนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้วยกรณีดังกล่าวไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ที่จำต้องจับกุมตัวโดยทันที อีกทั้งพยานหลักฐานยังไม่แน่ชัด ประกอบกับนายชาญศักดิ์ฯ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและสถานที่ทำงานชัดเจนแน่นอนสามารถเรียกตัว
นัดมาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาได้ในภายหลัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องได้แก่เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย และผู้ขับขี่รถยนต์สามล้อรับจ้างสาธารณะ ได้ให้ข้อมูลที่เป็น ประยชน์ต่อคดีนำมาสอบสวนร่วมกับรายงานการสืบสวนจนได้ความชัดเจน
ในวันที่ 28 ธันวาคม 2564 นายชาญศักดิ์ ไปใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ และออกจากร้านอาหารไปประสบอุบัติเหตุตามภาพข่าว จึงมีพยานหลักฐานที่เชื่อว่าได้ นายชาญศักดิ์ได้ขับขี่รถในขณะเมาสุราจริง อันเป็นการกระทำความผิดฐาน
1.เป็นผู้ขับขี่รถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย
2.เป็นผู้ขับขี่รถในทางชื่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่หยุดรถ และ
ให้ความช่วยเหลือตามสมควร
3.เป็นผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุรา
4.ฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานสอบสวนที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่เมาสุรา ตามมาตรา ๑๔๒ วรรคสอง
ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดซึ่งเพียงพอที่สามารถยืนยันการกระทำความผิดของนายชาญศักดิ์ๆ ไว้แล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดแก่นายชาญศักดิ์ รับทราบในวันที่ 5 มกราคม 2565โดยนายชาญศักดิ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้นได้นำตัวนายชาญศักดิ์พร้อมด้วยสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตาม กฎหมาย และในวันเดียวกันนี้ พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายชาญศักดิ์ทุกข้อกล่าวหาต่อศาลแขวงเชียงใหม่ และศาลแขวงเชียงใหม่ มีคำพิพากษาลงโทษปรับรวม 14,500 บาท
สภ.เมืองเชียงใหม่ ในฐานะต้นธารของกระบวนการยุติธรรม ขอยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ต่อทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม เท่าเทียมกัน และขอขอบคุณอย่างสูงกับทุกชุดข้อมูลที่ได้ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการสืบสวน ซึ่งทำให้พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการสอบสวนได้อย่างครบถ้วนสภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่"
ต่อมาเมื่อช่วงก่อนเที่ยง (วันนี้ 6 มกราคม) พ.ต.ท.สันติ คำใส รองผู้กำกับ หัวหน้างานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ว่า คดีนี้ หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบหลักฐานที่นายชาญศักดิ์ ฯผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้าไปใช้บริการร้านอาหารแห่งหนึ่ง และขับรถ มาตามเส้นทาง ที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อรวบรวมไว้ในสำนวน
จากนั้นจึงได้เชิญตัว ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งนายชาญศักดิ์ฯก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทางพนักงานสอบสวนจึงได้สรุป สำนวนเสนอให้อัยการ ฟ้องต่อศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่ และศาลได้มีคำพิพากษา ตามคำเผยแพร่ ในเอกสาร ของสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ซึ่งคดีนี้ ในชั้นสอบสวนถือว่าสิ้นสุดแล้ว