เช็คที่นี่! "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" งวดที่ 13

ภายหลังจากที่รัฐบาล ได้อนุมัติโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ลงวันที่ 4 พ.ย. 2564 จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นเงินเยียวยา ช่วยเหลือชาวนาไปแล้วนั้น

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งความคืบหน้าสำหรับการจ่าย "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในปีการผลิต 2564/65 ขณะนี้ ได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างประกันรายได้ในงวดที่ 1-11 (เพิ่มเติม) งวดที่ 12 อีก 731 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมโอนเงินโครงการประกันรายได้แล้ว 8.51 หมื่นล้านบาท  เกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.56 ล้านครัวเรือน

 

ล่าสุด  กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 13 ) ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ธ.ก.ส.โอนเงินชดเชยข้าว 8.5 หมื่นล้านบาท
• "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ธ.ก.ส. โอนงวดที่ 12 ยังไม่ได้เงิน เช็คที่นี่!
• อัพเดท "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ธ.ก.ส. โอนจ่ายเกษตรกรแล้ว 83,483 ล้านบาท
• เช็คสิทธิ “ประกันรายได้เกษตรกร” ทำไมเงินไม่เข้า แก้ไขยังไง?

ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 7 มกราคม 2565 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 13 ) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ที่ระบุวันที่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 - 6 มกราคม 2565 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

• ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,292.32 บาท
• ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,905.67 บาท
• ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,936.27 บาท
• ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,244.65 บาท
• ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,802.09 บาท

ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา "ประกันรายได้เกษตรกร" กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงิน งวดที่ 13 ในวันที่ 7 มกราคม 2565 ดังนี้

• ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,707.68 บาท
• ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 3,094.33 บาท
• ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,063.73 บาท
• ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,755.35 บาท
• ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,197.91 บาท

 

ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้

1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2564 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันที หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
3. ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน โดยประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 (รอบที่ 1) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เม.ย.- 31 ต.ค. 2564 ยกเว้นภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. 2564 - 28 ก.พ. 2565

ที่มา : กรมการค้าภายใน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร