สั่งปิดหมู่บ้าน โควิดระบาด "คลัสเตอร์ขึ้นบ้านใหม่" เหลือคนเข้าเวรยามแค่ 12 คน

สั่งปิดหมู่บ้าน โควิดระบาด "คลัสเตอร์ขึ้นบ้านใหม่" เหลือคนเข้าเวรยามแค่ 12 คน

สกลนคร สั่งปิดหมู่บ้าน โควิดระบาด "คลัสเตอร์ขึ้นบ้านใหม่" เหลือคนเข้าเวรยามแค่ 12 คน

เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค เตรียมเข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด ทั้งหมู่บ้าน ต้นตอจากคลัสเตอร์งานขึ้นบ้านใหม่ ที่อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร คาดยอดผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนายอำเภอได้สั่งปิดหมู่บ้าน 14 วัน แต่พบว่ามีเวรยามเหลือผลัดเปลี่ยน 12 คน

14 มกราคม 2565 จากกรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน แต่พบว่ามีการกระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็วในกลุ่มของผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์งานขึ้นบ้านใหม่ที่ปั๊มน้ำมัน บ้านโพนบก ต.บ้านแป้น อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร 

เบื้องต้นผลตรวจพบมียอดผู้ติดเชื้อแล้ว 33 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในพื้นที่จังหวัดสกลนครพุ่งสูงขึ้น โดยข้อมูลของวันที่ 13 มกราคม 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 81 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัด 76 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 5 ราย

สั่งปิดหมู่บ้าน โควิดระบาด \"คลัสเตอร์ขึ้นบ้านใหม่\" เหลือคนเข้าเวรยามแค่ 12 คน

 โดยผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์งานขึ้นบ้านใหม่ ที่เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (HRC) ส่วนใหญ่ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอ.โพนนาแก้ว ซึ่งมีเตียงรองรับผู้ป่วย 41 เตียง ทำให้ต้องมีการขยายเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 60 เตียง และเตรียมตั้ง รพ.สนามขึ้น 3 แห่ง รองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น

นายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอโพนนาแก้ว กล่าวว่า ได้ประสานขอสนับสนุนรถชีวนิรภัย จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 (เชิงรุก) ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับชาวบ้าน ครอบคลุมทั้ง 406 ครอบครัว จำนวน 1,012 คน แต่อยู่อาศัยจริงประมาณ 800 คน ซึ่งจะคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำ เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

สั่งปิดหมู่บ้าน โควิดระบาด \"คลัสเตอร์ขึ้นบ้านใหม่\" เหลือคนเข้าเวรยามแค่ 12 คน

แต่ตอนนี้จำเป็นต้องสั่งปิดหมู่บ้าน 14 วัน และขอความร่วมมือชาวบ้านไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ แต่ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่เฝ้าดูอาการจะไม่ให้ออกนอกตัวบ้านเป็นอันขาด แต่ปัญหาพบว่า สามารถัดเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่เฝ้าด่านหมู่บ้าน และตรวจตราดูแลความปลอดภัยเพียง 12 คน เป็นตัวของผู้ใหญ่บ้านที่ยังเสี่ยงต่ำ จิตอาสา และอปพร. ที่อาสาเข้ามาดูแลเวรยาม 

ซึ่งสาเหตุที่ไม่เอาคนภายนอกมาช่วยดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่เชื้อขยายวงกว้างออกไป จึงจำเป็นต้องใช้คนในหมู่บ้านที่ดูแลกันเอง แต่ยอมรับว่าไม่สามารถปิดพื้นที่เข้าออกหมู่บ้านได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหมู่บ้านเป็นทางผ่านสัญจรของหลายหมู่บ้าน และมีหลายเส้นทาง ทำได้เพียงขอความร่วมมือหากไม่จำเป็นไม่ผ่านเข้าออก ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้าน หากขาดเหลือของใช้ที่จำเป็นเวชภัณฑ์ ยา อาหาร น้ำดื่ม ทางอำเภอจะเร่งจัดหาให้เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านออกมาหาซื้อหาเอง 

อย่างไรก็ตาม ขอให้ชาวบ้านเข้าใจในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องปิดหมู่บ้าน เพราะต้องกันคนที่ไม่ติดเชื้อออกไป เบื้องต้นพบว่า การจัดงานขึ้นบ้านใหม่ มีการขออนุญาตถูกต้อง มีรายชื่อผู้มาร่วมงาน มีการคัดกรอง แต่พบมีการติดเชื้อและแพร่อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังและควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลาย โดยจะปิดหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 13 - 26 มกราคม