พบกับดักช้างด้วยตะปู 5 นิ้ววางรอบบ่อน้ำอาหารช้างป่าภูหลวง
พบกับดักช้างป่าภูหลวงด้วยพบตะปูยาว 5 นิ้ว กว่า 80 อัน วางรอบบ่อน้ำ ตีนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูหลวง จ.เลย แจ้งความเอาผิดแล้ว
วันที่ 22 ม.ค.2565 นายจิรชัย อาคะจักร หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย กล่าวว่า เขตรักพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มีพื้นที่ประมาณ 560,593 ไร่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่ อ.วังสะพุง ภูเรือ ด่านซ้าย และ อ.ภูหลวง เป็นพื้นที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากที่สุดของจังหวัดเลย โดยเฉพาะช้างป่าที่ขยายพันธุ์ขึ้นเรื่อย ๆ จากความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่า และจากการอนุรักษ์ดูแลอย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ฯประมาณ 186 ตัว ในฤดูหนาวต้องประสบกับภาวะอากาศหนาวเย็นจัด ประกอบกับพืชอาหารสัตว์ป่าหลักของสัตว์ป่า ช้างป่าจึงอพยพ เดินทางลงสู่ด้านล่างของภูมากกว่าช่วงฤดูฝน
หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง กล่าวอีกว่า กรณีเจ้าหน้าที่พบกับดักช้าง บริเวณรอยต่อพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ว่า กับดักช้างเรือใบตีติดกีบกระดานไม้และนำไปวางไว้รอบบ่อน้ำที่เป็นแหล่งอาหาร-น้ำของช้าง ตะปูขนาดความยาว 5 นิ้ว จำนวน 80 ตัว ติดแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง บริเวณบ้าน บ้านวังมน ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย ซึ่งเป็นที่ทำกินของชาวบ้านด้วย ซึ่ง ช้างป่าภูหลวงนั้นคอรบคุมพื้นที่ อ.วังสะพุง ด่านซ้ายและภูเรือ ช้างป่าฯจะลงมาหากินพื้นที่ใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ลงมากัดกิน ทำลายพื้นที่การเกษตรของประชาชน จนท. จึงติดตามดูว่ามีช้างตัวไหนออกไปนอกเขตบ้างหรือไม่
จนกระทั่งวันนี้พบกับกับดักช้างรอบบ่อน้ำ มีลักษณะเป็นไม้วงกลมและตอกตะปูติดไว้ โดยหันปลายแหลมขึ้น เป้าหมายน่าจะเป็นช้างอย่างเดียว ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเคยพูดคุยกับชาวบ้านก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อทำความเข้าใจและไม่ใช้ความรุนแรงต่อสัตว์ป่า แต่นอกจากปัญหาจะไม่จบแล้ว ยังเกิดปัญหาขึ้นต่อเนื่อง อีกด้วย กับดักช้างลักษณะนี้อันตรายมากและผิดกฎหมายด้วย ถ้าเป็นสนิมแล้วช้างเหยียบลงไป คงเป็นแผลติดเชื้อแน่นอน เรื่องนี้มันมีหลายวิธีที่จะช่วยกันดูแลพื้นที่ดูแลสัตว์ป่า คงจะต้องหาวิธีในการดูแลซึ่งกันและกัน ขณะนี้ทางราชการได้ใช้กลุ่มอาสาเฝ้าระวังช้างในพื้นที่ภูหลวงตามพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ที่เป็นหมู่บ้านรอบแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
เข้ามาช่วยเรื่องการทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์เรื่องการดูแลช้างและดูแลสัตว์ป่าในพื้นที่กับผู้นำชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่เข้าใจและอยู่กับช้างอย่างปลอดภัย ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้โพสต์รณรงค์ “หยุดกับดักสัตว์ป่า มหันตภัยทำร้ายชีวิต” การเสียชีวิตเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่การมีชีวิตรอดและทุกข์ทรมานคือสิ่งที่เลวร้ายกว่า สายด่วนพิทักษ์ป่า
นายไสว เจริญศรี นายอำเภอภูหลวง กล่าวว่า สำหรับการทำกับดักช้างป่าครั้งนี้ ได้แจ้งความกับ สภ.ภูหลวงเพื่อดำเนินคดีไว้แล้ว ผู้กระทำเป็นชาวบ้าน ต.ภูหอ อ.ภูหลวง เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกช้างป่าลงมาทำลายพืชผลการเกษตรได้รับผลกระทบ ด้วยความโกธรช้างจึงทำกับดักขึ้น การกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมายและไม่ทำให้ช้างกลัวแต่จะทำให้ช้างป่าดุมากยิ่งขึ้น ทางแก้ไขนั้นได้ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัดเลย เพื่อทำเสาไฟฟ้ารั้วไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่จะได้ผลดีมาป้องกันช้างป่าฯ ซึ่งก็อยู่แล้วแต่ไม่ครอบคลุมไม่เพียงพอ พร้อมกับได้ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง สถานีวิจัยช้างป่าภูหลวงและหัวหน้าโครงการอาหารช้างป่าภูหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตลอดจนทีมอาสาเฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวงจะเข้าไปคอยเฝ้าระวังเป็นช่วงเวลาตอนบ่ายและดึกๆ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงประชาชนทำการออกกรีดยางพารา อีกด้วย เฝ้าระวังช้างป่าภูหลวง จนท.สถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวงได้เข้าตรวจสอบและติดตามช้างป่าตามที่ได้รับแจ้งพบช้างป่าภูหลวงลงมายังหมู่บ้าน จำนวน 3 ตัว บริเวณสระครูบุญ ต.ภูหอ อ.ภูหลวง ได้แจ้งแจ้งเตือนเกษตรกรที่เข้าพื้นที่ การเกษตรใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ในช่วงช้างป่ามักออกมาหากิน