แฉกลลวง หลอกเปิดบัญชี เหยื่อสาว 23 ตกเป็นผู้ต้องหา เครียดคิดสั้นจะตายยกครัว
เตือนภัย แฉกลลวง หลอกเปิดบัญชี เหยื่อสาว 23 ตกเป็นผู้ต้องหา เครียดคิดสั้นจะตายยกครัว หากไม่อยากตกเป็นเหยื่อ เป็นผู้ร่วมขบวนการแก๊งหลอกขายของออนไลน์ และฉ้อโกงประชาชน ต้องระวัง
เหยื่อสาววัย 23 ชาวบุรีรัมย์ ร่ำไห้ร้องขอความช่วยเหลือ ถูกแก๊งมิจฉาชีพ ทำทีเป็นนายหน้าหลอกจะพาข้ามด่านไปทำงานบ่อนคาสิโน ปอยเปต ค่าแรงสูงเดือนละกว่า 2 หมื่น แลกกับการหลอกเปิดบัญชีธนาคารอ้างแค่นำไปใช้ธุรกิจขายของออนไลน์ พอหลงเชื่อเปิดบัญชีส่งให้ นอกจากจะไม่ได้ไปทำงาน ยังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงกว่า 3 ล้าน มีหมายเรียก 6 หมาย เครียดจัดถึงขั้นคิดสั้นทั้งครอบครัว
(24 ม.ค. 65) น.ส.อุไรรัตน์ หรือแนน อายุ 23 ปี ชาวอำเภอแคนดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมครอบครัวได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจาก น.ส.อุไรรัตน์ ถูกแก๊งมิจฉาชีพทำทีเป็นนายหน้าหลอกจะพาข้ามแดนไปทำงานที่บ่อนคาสิโนปอยเปต ประเทศกัมพูชา มีค่าแรงสูงเดือนละกว่า 2 หมื่นบาท แต่ต้องแลกกับการเปิดบัญชีธนาคารโดยแก๊งมิจฉาชีพอ้างว่า บริษัทขายของออนไลน์ที่ทำอยู่กำลังมีปัญหาจึงต้องใช้บัญชีคนอื่นเพื่อรับโอนเงินลูกค้า แต่รับปากว่าไม่มีปัญหาแน่นอน
เมื่อ น.ส.อุไรรัตน์ หลงเชื่อเปิดบัญชีธนาคาร 2 ธนาคาร แล้วส่งเล่มบัญชีให้กับแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว เพื่อหวังจะได้ไปทำงานที่บ่อนคาสิโนเพื่อหาเงินส่งเสียครอบครัว แต่สุดท้ายนอกจากจะไม่ได้ทำงานตามที่แก๊งมิจฉาชีพกล่าวอ้าง กลับตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกฉ้อโกงปล่อยเงินกู้ออนไลน์ ยอดความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
เธอถูกหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาถึง 6 หมาย คือ สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม , สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ , สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก , สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และ สภ.เมืองนครนายก 2 หมาย จนทำให้ น.ส.อุไรรัตน์ เกิดความเครียดถึงขั้นคิดสั้น กินยาฆ่าตัวตาย หลังจากได้รับหมายเรียก โดยเธอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับแก๊งมิจฉาชีพ
ขณะที่พ่อและแม่ของ น.ส.อุไรรัตน์ หลังทราบเรื่องก็เครียดและสงสารลูกสาว เพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายเพราะมีอาชีพรับจ้างไปวันๆ จึงกลัวว่าลูกสาวจะถูกจับติดคุก จนเคยจะตัดสินใจคิดสั้นทั้งพ่อแม่ลูก เพราะหาทางออกไม่ได้และไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร แต่ก็สงสารลูกคนเล็กที่ยังเรียนอยู่จะอยู่มัธยมจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร
น.ส.อุไรรัตน์ เล่าทั้งน้ำตาว่า ด้วยฐานะครอบครัวยากจนพอเรียนจบ ม.6 ก็ไปหางานทำต่างจังหวัด กระทั่งเมื่อปี 2561 มีเพื่อนมาชวนไปทำงานที่ปอยเปต ในบ่อนคาสิโนออนไลน์ โดยเพื่อนบอกว่าได้ค่าแรงสูงเดือนละกว่า 2 หมื่นบาท จึงตัดสินใจไปโดยมีนายหน้าส่งไปก็ทำอยู่ 3 ปีจนถึงปี 2563 ก็เกิดสถานการณ์โควิดระบาดจึงถูกส่งกลับไทย
กลับมาอยู่กับเพื่อนที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งตอนนั้นก็ตกงานอยู่หลายเดือน กระทั่งไปเจอเฟสบุ๊กชื่อว่า โพสต์ว่าใครสนใจจะไปทำงานบ่อนคาสิโนปอยเปต สามารถจัดส่งไปได้ ตนจึงติดต่อไปพบว่าเป็นผู้ชายก็พูดคุยกันทางโทรศัพท์ เขาบอกว่าไม่ต้องเสียค่านายหน้าพาข้ามซึ่งปกติต้องจ่าย 7,500 บาท แต่ขอแลกกับการเปิดบัญชีธนาคาร 2 ธนาคาร เพื่อจะนำไปใช้ในธุรกิจขายออนไลน์ของบริษัทเขาที่กำลังมีปัญหา ด้วยความที่ตนอยากกลับไปทำงานที่บ่อนคาสิโนเพราะได้ค่าจ้างสูงจะได้มีเงินส่งเสียครอบครัว วันที่ 25 ส.ค.64 จึงไปเปิดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์กับกสิกรไทย สาขาอรัญประเทศ
จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ให้เอาเอกสารเล่มบัญชีธนาคาร สำเนาบัตร ปชช. ไปให้ที่ข้างร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ แต่พอไปถึงก็มีผู้หญิงรูปร่างอวบ อายุประมาณ 30 - 35 ปี ผิวขาวผมยาวหน้าตาดี เดินออกมาจากร้านทองมารับเอกสารแล้วบอกให้รอ เดี๋ยวจะพาข้ามด่านวันไหนจะติดต่อกลับไป ตนก็ไปพักรอกับเพื่อนที่อรัญประเทศ แต่ก็ไม่เห็นติดต่อมาสักที
กระทั่งวันที่ 30 ก.ย .64 ได้มีหมายเรียกจาก สภ.เมืองนครนายก ส่งไปที่บ้าน อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่าตนเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพวกคดีฉ้อโกง พอแม่โทรศัพท์มาบอกก็ตกใจมาก จึงรีบเดินทางกลับบ้านทันที จากนั้นก็มีหมายเรียกจากโรงพักต่างๆ ส่งมาอีกรวมตอนนี้ 6 หมายแล้ว ตนและครอบครัวเครียดมากไม่รู้จะทำยังไง ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งดังกล่าว อยากให้ผู้รู้กฎหมายหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย
ด้านนางสมิตรา ผู้เป็นแม่ พูดทั้งน้ำตาว่า วันที่ได้รับหมายเรียกอันแรกตกใจมากก็โทรไปต่อว่าลูกสาว จนลูกเล่าให้ฟังว่าเรื่องราวเป็นมายังไงถึงได้เข้าใจและเชื่อว่าลูกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ถูกหลอก พอมีหมายเรียกที่สองมา ลูกก็เครียดแอบกินยาเพื่อหวังจะฆ่าตัวตายหนีปัญหา แต่ดีที่ส่งไปรักษาทัน
หลังจากนั้น พากันไปแจ้งความที่ สภ.แคนดง ไว้เป็นหลักฐาน และร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือแต่เรื่องก็เงียบ ไม่มีใครมาช่วยหรือให้คำแนะนำอะไรเลย ตอนนี้ครอบครัวเครียดมากถึงขั้นคิดสั้นกับทั้งพ่อแม่ลูกเลย แต่ก็สงสารลูกสาวคนเล็ก จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานรัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะไม่รู้จะทำยังไงเพราะคงไม่มีเงินไปจ่าย ลำพังจะกินอยู่แต่ละวันก็ลำบาก กลัวลูกสาวจะติดคุก