ตัดทิ้ง "ผักกาดขาว" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

ตัดทิ้ง "ผักกาดขาว" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

เกษตรกรชาวม้งเมืองแม่ฮ่องสอนช้ำหนัก "ผักกาดขาว" ราคาตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ซ้ำเจอผลผลิตจากจีนตีตลาดจนขายไม่ออก ตัดสินใจฟันทิ้งประชด

วันที่ 28 มกราคม 2565 เกษตรกรชาวม้งจากบ้านไมโครเวฟ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ดั้นด้นลงดอยมาหาเช่าพื้นที่ราบริมน้ำ เพื่อปลูก "ผักกาดขาว" ช้ำหนักประสบปัญหาราคาตกต่ำเหลือเพียง กิโลกรัมละ 1 บาท แถมเจอผลผลิตจากจีนตีตลาดจนขายไม่ออก ตัดสินใจตัดฟันทำลายทิ้งประชด บางส่วนต้องปล่อยทิ้งเน่าคาแปลง

 

 

จากกรณีที่มีคลิปการตัดฟันทำลายพืชผลทางการเกษตร "ผักกาดขาว" ของชาวม้งรายหนึ่ง โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าพืชผลทางการเกษตรของ จ.แม่ฮ่องสอน ราคาตกต่ำและขายไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือ 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่เกษตรรายดังกล่าวคือ นายประสิทธิ์ เลาหลื่อ เป็นชาวเขาเผ่าม้งจากหมู่บ้านม้งไมโครเวฟ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งปัจจุบันได้รวบรวมสมัครพรรคพวกอีกหลายราย ลงมาเช่าพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในพื้นที่ริมน้ำบ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากแปลงเพาะปลูกบนดอยไม่มีน้ำในการทำเพาะปลูก จึงต้องลงมาเช่าที่ของชาวบ้านที่พื้นราบลุ่มดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ในเนื้อที่กว่า 100 ไร่

 

นายประสิทธิ์ เลาหลื่อ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องตัดทำลายแปลงปลูก "ผักกาดขาว" ทิ้งตามคลิปดังกล่าวว่า เนื่องจากประสบกับปัญหาไม่สามารถตัดผักกาดขาวไปจำหน่ายได้ เพราะไม่มีตลาดรับซื้อและราคาตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท

 

ประกอบกับช่วงนี้ราคาน้ำมันแพง ยิ่งกลายเป็นปัญหามากขึ้นไปอีก จากเดิมที่เคยตัดส่งป้อนเข้าตลาดทั้งที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และที่ จ.เชียงใหม่ มาถึงวันนี้ทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด บางวันยอมเสี่ยงตัดและบรรทุกออกไปรอจำหน่ายก็ไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ ต้องจอดรอความหวังจนผักเน่าคารถก็เจอมาแล้ว

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

 

อย่างไรก็ตาม ยิ่งมาเจอช่วงตรุษจีนที่หวังว่าจะขายผักได้ราคาดี ต้องมาเจอกับผักที่ทะลักมากับขบวนรถไฟจากจีนเทียบท่าที่ ส.ป.ป.ลาว แล้วกระจายมายังอีกหลายตลาดในประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่ จ.เชียงใหม่ ดังนั้นเมื่อเจอทางตันแบบนี้ต้องยอมตัดทิ้งเพื่อให้คนได้รู้ว่าเกษตรกรเริ่มจะไม่มีทางไปแล้ว ซึ่งผลผลิตของตนเองที่ต้องทำลายทิ้งไปมีมากกว่า 200,000 กิโลกรัม ไม่นับรวมกับรายอื่นๆอีก

 

สำหรับราคาที่พอจะให้เกษตรกรอยู่ได้นั้นต้องไม่น้อยกว่า 5-6 บาทต่อกิโลกรัม เพราะว่าหลังการปรับขึ้นราคาสินค้าพบว่าปุ๋ยที่เคยซื้อกระสอบละ 700-800 บาท ได้ขยับตัวขึ้นไปอยู่ที่กระสอบละ 1,200-1,300 บาท หากรวมกับค่าเมล็ดพันธุ์และค่าแรงแล้ว ถือว่าขณะนี้อยู่ไม่ได้ อยากจะวอนให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ตัดทิ้ง \"ผักกาดขาว\" ประชดรัฐฯ พิษราคาตกเหลือ กิโลกรัมละ 1 บาท

 

ข่าวโดย ทศพล บุญพัฒน์ จ.แม่ฮ่องสอน