"พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า" 28 มกราคม 2565 - 3 กุมภาพันธ์ เช็คเลย

"พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า" 28 มกราคม 2565 - 3 กุมภาพันธ์ เช็คเลย

กรมอุตุนิยมวิทยา "พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า" ระหว่างวันที่ 28 มกราคม 2565 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 เช็คเลยพื้นที่ไหนอากาศเย็นถึงหนาว พื้นที่ไหนมีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา "พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า" ระหว่างวันที่ 28 มกราคม 2565 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 โดยการคาดหมายในช่วงวันที่ 28 - 30 มกราคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง 

 

ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีอากาศเย็นในตอนเช้า 

 

 

ส่วนในช่วงวันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก 

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย

 

ข้อควรระวัง

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม 2565 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนชาวเกษตรกรบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
 

 

 

ภาคเหนือ

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม และ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 13-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ส่วนในช่วงวันที่ 30 - 31 มกราคม 2565 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม 2565 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ส่วนในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2565 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคกลาง

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม และ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 1 - 2 กุมภาพันธ์ 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ส่วนในช่วงวันที่ 30 - 31 มกราคม 2565 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


ภาคตะวันออก

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม 2565 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

 

ส่วนในช่วงวันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2565 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

 

ในช่วงวันที่ 28 - 31 มกราคม 2565 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ 

 

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

 

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส


ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

 

ในช่วงวันที่ 28 - 31 มกราคม 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร 

 

ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

ในช่วงวันที่ 28 - 29 มกราคม และ 1 - 3 กุมภาพันธ์ 2565 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

 

ส่วนในช่วงวันที่ 30 - 31 มกราคม 2565 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ออกประกาศวันที่ 28 มกราคม 2565