อัพเดท "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 1,254 จับตา สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี

อัพเดทต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ โควิดวันนี้ 1 ก.พ. 65 เกาะติดความคืบหน้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบ อัพเดท 10 จังหวัด อันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด 

ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตรวจสอบ 10 จังหวัดอันดับ

 

 

01/02/2565 กรุงเทพ หรือ กทม. ยอดติดเชื้อโควิดสูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ ตามด้วย  สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา ศรีสะเกษ เชียงใหม่ ปทุมธานี และ อุบลราชธานี

 

ฉีดวัคซีนโควิด จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 31 ม.ค. 2565)

รวม 115,256,516 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 31 มกราคม 2565

ยอดฉีดทั่วประเทศ 202,944 โดส

เข็มที่ 1 : 15,378 ราย

เข็มที่ 2 : 31,886 ราย

เข็มที่ 3 : 155,680 ราย

----------------------------

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 52,331,058 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 48,635,307 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 14,290,151 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC

 

 

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.30 น.

สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565

ผู้ป่วยรายใหม่ 7,422 ราย

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 224,529 ราย

หายป่วยแล้ว 174,271 ราย

เสียชีวิตสะสม 487 ราย

----------------------------

ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,447,964 ราย

หายป่วยแล้ว 2,342,765 ราย

เสียชีวิตสะสม 22,185 ราย

ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 31 มกราคม 2565

มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 115,256,516 โดส

----------------------------

วันที่ 31 มกราคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน

เข็มที่ 1 จำนวน 15,378 ราย

เข็มที่ 2 จำนวน 31,886 ราย

เข็มที่ 3 จำนวน 155,680 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

ศูนย์ข้อมูลCOVID19

 

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อรวม 377,798,297 ราย

อาการรุนแรง 92,980 ราย

รักษาหายแล้ว 298,951,020 ราย

เสียชีวิต 5,691,551 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 76,222,215 ราย

2. อินเดีย จำนวน 41,466,711 ราย

3. บราซิล จำนวน 25,454,105 ราย

4. ฝรั่งเศส จำนวน 19,140,730 ราย

5. สหราชอาณาจักร จำนวน 16,468,522 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 30 จำนวน 2,447,964 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 ศูนย์ข้อมูลCOVID19

สธ. พร้อมใช้ “ซิโนแวค” ฉีดเด็ก 3 ขวบ รอ อย.อนุมัติขยายทะเบียน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า วัคซีนซิโนแวคมายื่นขอจดทะเบียนเพื่อใช้สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากหากฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มอายุมากขึ้นก็จะช่วยลดความเสี่ยง ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเห็นชอบให้ใช้วัคซีนซิโนแวคสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปได้หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม โดยขณะนี้ อย.อยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจากองค์การเภสัชกรรมที่เป็นผู้นำเข้าวัคซีน หากมีการอนุมัติแล้ว กระทรวงสาธารณสุขพร้อมนำมาฉีดในกลุ่มอายุ 3 ขวบขึ้นไปทันที เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่ประชาชน

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข

คำแนะนำการให้วัคซีนโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุข 

อ้างอิงจากคำแนะนำจากการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 1/2565 วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565

ผ่านมติที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565

1. ให้สามารถฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ด้วยวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 1 และวัคซีน Viral vector เป็นเข็มที่ 2 ได้ โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก

2. ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด19 สามารถรับวัคซีนตามหลักการเดียวกับผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

3. เพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca 2 เข็มมาแล้ว สามารถรับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มกระตุ้นได้

4. กรณีผู้ที่อายุ 12 - 17 ปี ที่ได้รับวัคชีน Sinopharm 2 เข็มมาแล้ว (คณะอนุกรรมการฯ ยังไม่ได้แนะนำให้ฉีดในขณะนี้) สามารถรับวัคซีน Pfizer เป็นเข็มกระตุ้นได้ ภายหลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว 4 สัปดาห์ขึ้นไป

5. เห็นชอบในหลักการให้วัคซีน Sinovac ในผู้ที่มีอายุ 3-17 ปี (ขณะนี้รอการขึ้นทะเบียนโดยสำนักงานคณะกรรมการ

อาหารและยา) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะแจ้งแนวทางการให้วัคซีน Sinovac ในเด็ก เมื่อขึ้นทะเบียนแล้ว

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค