"พยาธิปอดหนู" อันตรายแค่ไหน เช็คอาการของโรค อาหารแบบไหนควรเลี่ยง
"พยาธิปอดหนู" อันตรายแค่ไหน ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์จะพาไปเช็ควิธีสังเกตอาการของโรค และอาหารแบบไหนที่ควรเลี่ยงกิน
จากกรณีข่าวในโลกออนไลน์ "พยาธิปอดหนู" ขึ้นตาข้าราชการสาวจนตาบอด 1 ข้าง โดยข้อมูลพบว่าสาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆเป็นประจำ โดยเฉพาะ "กุ้งแช่น้ำปลา"
ผศ.พญ.สิรินันท์ ตรียะเวชกุล จักษุแพทย์เจ้าของไข้ เผยว่า คนไข้เป็นหญิงอายุ 40 ปี อาชีพข้าราชการ มีอาการตาพร่ามัวข้างเดียวมาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงได้นัดทำการตรวจตาอย่างละเอียดอีก 3 สัปดาห์ต่อมาด้วยวิธีการขยายม่านตา และพบว่าตามีการอักเสบและพบพยาธิในวุ้นตา ซึ่งพบเป็นรายแรกของจังหวัดพิษณุโลก
จากรายงานสถิติเคยพบผู้ป่วยพยาธิปอดหนูขึ้นตาครั้งแรกของโลก ในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2505 ทั่วโลกมีการรายงานพบผู้ป่วยไม่เกิน 50 ราย และพบมากที่สุดในไทยเป็นผู้ป่วยจากภาคอีสาน
วันนี้ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจออนไลน์จะพาไปทำความรู้จักกับ "พยาธิปอดหนู" อาหารที่ทำให้เกิดโรค อาการของโรค รู้ไว้จะได้ป้องกันและระวังตัวกันถูก
"พยาธิปอดหนู" หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า "พยาธิหอยโข่ง" พยาธิชนิดนี้เป็นพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า "แองจิโอสตรองจิลัส แคนโทเนนซิส" (Angiostrongylus cantonensis) โดยปกติจะชอบเข้าไปอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู จึงเป็นที่มาว่าพยาธิปอดหนูนั่นเอง
เมื่อหนูถ่ายออกมา พยาธิตัวอ่อนก็จะปนอยู่ในขี้หนู โดยตัวอ่อนจะไชเข้าหอยทาก หรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยขม หอยเชอรี่ กุ้ง ปูน้ำจืด กบ ตะกวด หรือแม้แต่ งู แล้วเติบโตเป็นตัวอ่อนอีกระดับต่อไป
เมื่อพยาธิตัวอ่อนเติบโตจนเป็นระยะติดต่อ พอกินเข้าไปพยาธิก็จะไชเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง ทำให้ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง หลังแข็ง ชัก อาจเป็นอัมพาตหรือตายได้ และที่สำคัญพยาธิมันไชไปเรื่อยๆ ถ้าพยาธิไชเข้าตา ตาอาจจะอักเสบ มัว และตาบอดได้ เหมือนกับข่าวของข้าราชการสาวรายนี้
ทั้งนี้ทางเพจเฟซบุ๊ก "หมอแล็บแพนด้า" ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ "พยาธิปอดหนู" ว่า เคยมีรายงานว่ามีคนกินตับตะกวด แล้วเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเพราะพยาธิตัวนี่มาแล้ว ในส่วนของเรื่องการรักษาก็มีความยากง่ายแล้วแต่เคส เพราะฉะนั้นตัดไฟแต่ต้นลมกันดีกว่า อย่าไปกินของสุกๆดิบๆ
อาการของโรคพยาธิปอดหนู
"พยาธิปอดหนู" ทําให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ระยะฟักตัวของการแสดงอาการกินเวลาประมาณ 7-30 วัน หลังจากที่ได้รับระยะติดต่อ อาการเริ่มแรกจะมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ คอแข็ง บางรายมีอาการตาพร่ามัวเนื่องจากพยาธิมีการเดินทางเข้าตา นอกจากนี้ยังมีอาการเกร็งตามกล้ามเนื้อ สูญเสียการทรงตัว บางรายรุนแรงถึงเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้ ส่วนความรุนแรงของโรคพยาธิปอดหนูจะมากน้อยขึ้นอยู่กับจํานวนพยาธิที่ได้รับเข้าไป และการตอบสนองของร่างกายต่อพยาธิ
ด้านการรักษาปัจจุบันยังไม่มียาที่มีความจําเพาะในการรักษาโรคที่เกิดจากพยาธิปอดหนู ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงแพทย์จะให้ยาแก้ปวดระงับอาการของโรค ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะต้องรักษาด้วยยา prednisolone
ข้อมูล/ภาพจาก รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร /หมอแล็บแพนด้า