ผู้รับสิทธิ "คนละครึ่ง" วอนเลิกทำทุจริต เกรงรัฐยกเลิกโครงการนี้

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 หลังจากที่มีข่าวตามโซเชียลออกมาว่ามีการโพสต์รับสแกนโครงการคนละครึ่งแลกเป็นเงินสด แต่มีการหักหัวคิวไม่ได้จำนวนเต็ม ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจร้านขายของชำถึงบรรยากาศการใช้คนละครึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ก็ยังมีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งกันตลอด และสามารถใช้ได้วันละ 300 บาท โดยพบกับนายสุดสาคร บุสดี อายุ 57 ปี ชาวตำบลหนองนาคำ อาชีพรับจ้างทั่วไป กำลังมาใช้สิทธิคนละครึ่งซื้อสินค้าข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำดื่มแพ็ค เพื่อนำมากินอยู่ในครอบครัว

นายสุดสาคร บุสดี เปิดเผยว่า ตนได้รับสิทธิคนละครึ่งมาตั้งแต่เฟสแรกจนมาถึงเฟสนี้ หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าเอาโครงการคนละครึ่งไปสแกนรับเป็นเงินสด ตนคิดว่าอันดับแรกต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการดีๆ มอบให้ประชาชน และแบ่งเบาภาระช่วยเหลือประชาชน เพราะอย่างน้อยโครงการคนละครึ่งก็ทำให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ หรือไม่ก็อาหารตามร้านอาหารต่างๆ ที่ร่วมโครงการ ซึ่งไม่ว่าตั้งแต่โครงการคนละครึ่งเฟสแรกมาถึงเฟสล่าสุดก็ถือว่าต้องขอบคุณรัฐบาลจริงๆ

ซึ่งหลังจากที่มีข่าวออกมาว่ามีกลุ่มคนได้นำเอาโครงการคนละครึ่งมาเปิดรับสแกนรับเอาเงินสด และมีการหักเปอร์เซ็นต์ ตนจึงอยากฝากว่าอย่าไปทำแบบนี้เลย เพราะว่าคนที่เดือดร้อนยากจน และคนที่อยากได้โครงการคนละครึ่ง แต่ลงทะเบียนไม่ทันหรือว่าลงทะเบียนไม่ได้มีเป็นจำนวนมาก เพราะว่าถ้าทำแบบนี้มันจะทำให้รัฐบาลไม่มีโครงการแบบนี้ออกมาอีกก็ได้ ซึ่งตนก็ได้ติดตามข่าวก็ทราบว่าคนที่ทำแบบนี้ก็มีส่วนที่จะผิดกฎหมายไปด้วย และก็จะถูกตัดสิทธิไปเลย

“อยากบอกว่าคนที่ทำการทุจริตเกี่ยวกับโครงการคนละครึ่งที่เอามาสแกนแลกเงินสด อย่าคิดที่จะทำเลยคนอื่นจะเดือดร้อน เพราะว่าโครงแบบนี้รัฐบาลก็จะไม่ออกมาช่วยเหลือประชาชนอีก และยังมีคนที่ไม่ได้รับสิทธิก็จะเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งก็ล่าสุดเห็นว่ามีเรื่องกฎหมายเข้ามาแล้วสำหรับคนที่ทุจริตโครงการนี้ ทำให้ติดคุกกันไป”

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์