รวบหนุ่มพิมพ์ "แบงก์ปลอม" หยอดตู้เติมเงิน
ตร.สันทราย เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหานำแบงก์ปลอม ไปหยอดตู้เติมเงิน ขยายผลพบเป็นอดีตพนักงานโรงพิมพ์ ก่อนหัวใสพิมพ์แบงก์ใช้เอง
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทรายอ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมชายอายุ 38 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอดีตพนักงานโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง หลังตระเวนก่อเหตุนำธนบัตรปลอมไปเติมเงินในตู้เติมเงิน ตามหน้าร้านขายของชำ ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นเงินจำนวน 2,900 บาท โดยใช้ธนบัตรปลอม 100 บาท จำนวน 29 ใบ ในการก่อเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลาง คือ เครื่องปรินท์ถ่ายเอกสาร ยี่ห้อ เอฟสัน รุ่น อีโคแทงก์ แอล 3210 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง , ธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 หมายเลข 2 ท1217595 จำนวน 5 ฉบับ และธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ , เครื่องโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ วีโว่ จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องโทรศัพท์ที่ผู้ถูกจับใช้ธนบัตรปลอมใส่ในเครื่องเติมเงินแล้วโอนเงินเข้าเครื่องหมายเลขโทรศัพท์ของกลางดังกล่าว
พนักงานสอบสวนสภ.สันทราย ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ปลอมและใช้สิ่งของทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น โดยผิดกฎหมาย”
โดยพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลาประมาณ 11.58 น. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดตู้รับเติมเงินสดหน้าร้านชำของตนเอง กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าไปเปิดตู้เติมเงินเพื่อนับเงิน ปรากฏพบธนบัตรที่มีผู้ใช้บริการนำมาใส่ในเครื่องพบเป็นธนบัตรปลอม โดยเป็นฉบับละ 100 บาท จำนวน 29 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,900 บาท ผู้เสียหายทราบว่าเป็นของปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีจนกระทั่งตำรวจชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ที่ปลอมธนบัตรและนำไปใช้ใส่ในเครื่องเติมเงินอัตโนมัติที่จะมีวางไว้ประจำแต่ละร้านในชุมชนย่านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผู้ก่อเหตุเติมเข้าไป อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบลักษณะบุคคลต้องสงสัย
จึงได้ติดตามไปจนพบผู้ก่อเหตุอยู่บริเวณบ้าน จึงได้เข้าซักถามให้การรับสารภาพว่าตนได้เป็นผู้ที่กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริงโดยให้การเกี่ยวกับวิธีการทำผิดว่า เริ่มต้นจากการนำเครื่องปรินท์ของกลางรายการที่ 1 นำธนบัตรฉบับละ 100 บาท มาวางถ่ายเอกสารด้านหนึ่ง จากนั้น ได้วัดระยะห่างตามขนาดเครื่องปริ้น แล้วกลับหน้ากระดาษ เพื่อให้ถ่ายเอกสารอีกหน้าหนึ่งให้ตรงกับกระดาษที่ถ่ายไว้แล้วด้านหนึ่ง เมื่อถ่ายตรงกันทั้งสองด้านก็ได้ตัดออกเป็น 1 ฉบับ จากนั้น ก็ได้ทำเป็นชุดๆ จำนวนหลายฉบับ จากนั้นได้นำเงินปลอมดังกล่าวไปหยอดเติมเงินตู้อัตโนมัติเพื่อโอนเข้าบัญชีตนเอง หรือเติมเงินเข้าโทรศัพท์มือถือ กระทั่งถูกชุดจับกุมตรวจพบและขยายผลจนกระทั่งทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดดังกล่าว ทั้งนี้ จากการจับกุมและคำรับสารภาพ ผู้ถูกจับยังได้ให้การโดยรวมว่าได้นำฉบับปลอมตามวิธีการดังกล่าวไปก่อเหตุจำนวน 3 ร้าน