"สมปอง" งานเข้า! ญาติคนใน "นครไธสง" สร้างบ้าน-ปลูกยางพารา ป่าไม้ชัยภูมิชี้แล้ว
ป่าไม้ชัยภูมิ ตรวจสอบพบนอมินี? "สมปอง" งานเข้า! ญาติคนใน "นครไธสง" สร้างบ้าน-ปลูกยางพารา ป่าไม้ชัยภูมิชี้พื้นที่ป่าสงวน ตรวจสอบต่อในวันนี้
ความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบที่ดินของนายสมปอง นครไธสง หรือ ทิดสมปอง อดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง มหาสมปอง ที่ระบุว่ามีการกว้านซื้อที่ดินกว่า 300 ไร่ บริเวณรอยต่อเขต ส.ป.ก. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในอ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หรือไม่
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายดุสิต กมลพาณิชย์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้ชัยภูมิ กล่าวถึงว่า ผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรจัดการป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของนายสมปองวันนี้ พบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเมื่อก่อนเคยเป็นพื้นที่ป่าสงวน ต่อมา สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) เคยประกาศเป็นพื้นที่เขต สปก. แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ยังเป็นป่าและอยู่ติดเทือกเขาภูเขียว จึงไม่เหมาะกับการทำเกษตรกรรม สปก. จึงส่งมอบพื้นที่กลับคืนมาให้กรมป่าไม้ดูแล จึงทำให้พื้นที่หมู่บ้านมอตาเจ็กทั้งหมู่บ้านเป็นพื้นที่ป่าสงวนเช่นเดิม
ซึ่งเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้วซึ่งมีพื้นรวมทั้งหมด 67แปลง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของป่าไม้ โดยตรวจไปแล้ว 10 แปลง เนื้อที่กว่า 200 ไร่ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ รวมทั้งทั้งหมดกว่า 200 ไร่ ส่วนที่เหลือจะตรวจสอบต่อในวันนี้ ซึ่งบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่เตรียมการประกาศเป็นพื้นที่จัดสรรที่ทำกิน ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ให้ราษฎรไร้ที่ดินทำกินด้วย
นายดุสิต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดแล้ว จะให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความหาผู้กระทำผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ
ขณะนี้ ในส่วนที่ทำการตรวจสอบที่ดินในเขตป่าสงวน จำนวน 10 แปลง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแปลงที่นางตาล นครไธสง เป็นคนในครอบครองพระสมปอง จำนวน 2 แปลง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย 1 แปลง จำนวน 5 ไร่ ส่วนอีก 1 แปลงเป็น พื้นที่ปลูกยางพารา 16 ไร่ ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชื่อผู้ครอบครอง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาตัวเจ้าของพื้นที่ต่อไป