ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งปิดโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วซ้ำ 2 รอบ

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งปิดโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วซ้ำ 2 รอบ

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งปิดโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วซ้ำ 2 รอบ พบติดตั้งถังมือสอง สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาหากพบทำผิด

จากรณีเกิดกรณีก๊าซแอมโมเนียที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งภายในโรงน้ำแข็งกรีนไอซ์ บริเวณถนนวจี ซอย 6 ชุมชนบ้านไร่ เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รั่วและส่งกลิ่นเหม็นไปเป็นวงกว้างในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหล่มสักได้นำรถดับเพลิงและรถน้ำเข้าฉีดพ่นสเปรย์น้ำเพื่อควบคุมการฟุ้งกระจายของแอมโมเนีย

ขณะเดียวกันได้ทำการอพยพชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงประมาณ 10 หลังคาเรือนให้ไปอยู่ที่โดมของเทศบาลเมืองหล่มสัก แต่ทั้งนี้ก็ได้มีประชาชนราว 10 – 15 คน มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 9 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา

ต่อมาช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.พ.65) นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายชัชวาล เบญจสิริวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ เทศบาลเมืองหล่มสัก

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งปิดโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วซ้ำ 2 รอบ

 

โดยหลังจากตรวจพื้นที่นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจุดที่พบการรั่วของก๊าซแอมโมเนียเป็นเครื่องทำน้ำแข็งเครื่องใหม่ที่นำมาติดตั้ง แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ตนได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในด้านต่าง ๆ ตามอำนาจหน้าที่ถ้าผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด 

เบื้องต้นได้สั่งให้ปิดโรงงานแห่งนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการตรวจสอบและมีความปลอดภัย หากมีการรั่วไหลและไม่ปลอดภัยอย่างซ้ำซากแบบนี้ก็คงต้องใช้มาตรการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งปิดโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วซ้ำ 2 รอบ
 

ด้านนายชัชวาล เบญจสิริวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่าในเบื้องต้นในขณะนี้ได้มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาบูรณาการในการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่โดยเทศบาลเมืองหล่มสักได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข สั่งปิดโรงงานโดยไม่มีกำหนดพร้อมให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำนักงานอุตสาหกรรมก็ได้สั่งให้มีการระงับโรงงานนี้เช่นเดียวกันจนกว่าจะมีการแก้ไขให้แล้วเสร็จ และหากพบว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและทางโรงงานทำไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ส่วนสำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้นำเครื่องมือมาตรวจวัดคุณภาพของสภาพแวดล้อมทั้งด้านอากาศและน้ำ พร้อมกันนี้ได้ประสานให้โรงงานเคลื่อนย้ายก๊าซแอมโมเนียไปไว้ที่อื่นที่ปลอดภัย รวมทั้งได้ให้รถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองหล่มสักมาฉีดน้ำเพื่อชะล้างแอมโมเนียที่ยังติดค้างอยู่ในท่อออกไปให้หมด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง และระหว่างนี้ก็ยังคงจะมีกลิ่นเหม็นของก๊าซแอมโมเนียอยู่