"วาเลนไทน์" ราคากุหลาบพุ่ง 2 เท่า เจอพิษ "โควิด-19" น้ำมันแพง
กุหลาบแพงใช้แบงค์แทนได้ แม่ค้าโอดครวญราคาดอกกุหลาบพุ่งขึ้น 2 เท่า เจอทั้งพิษโควิด-19 ค่าขนส่งน้ำมันแพง
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 65 บรรยากาศโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่เทศกาลวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมือง จ.สุรินทร์ เพื่อสำรวจราคาดอกกุหลาบ ซึ่งถือว่าเป็นดอกไม้ประจำเทศกาล ซึ่งแม่ค้าดอกไม้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้ต้นทุนราคาดอกกุหลาบแพงมาก ปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 2 เท่า โดยกำใหญ่ราคาส่งตอนนี้พุ่งสูงไปกว่า 2,000 บาท
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาดอกกุหลาบในปีนี้แพงกว่าทุกปีก็น่าจะมาจากเรื่องของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการขนส่งก็เพิ่มขึ้นไปด้วย ประกอบกับลูกค้าที่เคยซื้อน้อยลงอาจจะไม่ค่อยออกมาซื้อกันเนื่องจากปัญหาจากโควิด-19 ทำให้ในวันวาเลนไทน์ปีนี้แม่ค้าดอกไม้ต้องปรับตัวด้วยการ ลดปริมาณดอกไม้ในช่อลดลง ไปเสริมด้วยดอกไม้ประดับชนิดอื่นที่ราคาถูกกว่าเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถขายในราคาเดิมได้คือตั้งแต่ช่อละ 150 ไปจนถึงหลักพันบาทและตามแต่ลูกค้าจะสั่ง ส่วนกุหลาบดอกเดี่ยวนั้น จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น โดยดอกกุหลาบเกรดทั่วไปจากราคาปีที่แล้วดอกละ 15 บาทก็ขายในราคาดอกละ 25 บาท และดอกกุหลาบชนิดคัดพิเศษ จากราคา 30 บาทเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้ก็ขายราคา 50 บาทต่อ 1 ดอกอีกด้วย
ขณะที่ร้านดอกไม้แทนใจ หน้าเทศบาลเมืองสุรินทร์ได้ปรับกลยุทธ์รับงานสั่งทำช่อดอกไม้ ได้ทำช่อดอกไม้หลากหลายชนิดมีทั้งช่อดอกกุหลาบ, ช่อช็อคโกแลต, และช่อดอกแบงค์ร้อย ตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
นายขจรศักดิ์ ดวงดี (เสื้อโปโลสีน้ำเงิน) เจ้าของร้านดอกไม้แทนใจ กล่าวว่า ดอกกุหลาบปีนี้ราคาสูงขึ้นมากแพงกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ว่าปีนี้ราคาสูงมากน่าจะเป็นจากสถานการณ์โควิด-19ด้วย ก็เหมือนว่าขาดทุนกว่าปีที่แล้ว ช่วงนี้ตนพึ่งได้งานสั่งทำช่อดอกไม้เข้ามามีทั้งช่อดอกกุหลาบ, ช่อช็อคโกแลต, และช่อดอกแบงค์ร้อย แต่ละช่อตั้งแต่ 1,500 บาท ถึง 10,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่ลูกค้าจะสั่งให้ทำ เพราะว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าบางรายก็หายไป ซึ่งปีที่แล้วตนขายรับงานเข้าดีกว่า ส่วนมากลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติที่มาสั่งทำช่อดอกไม้อีกด้วย