จับแรงงานชาวเมียนมาลักลอบข้ามแดน 73 คน พร้อมผู้นำพาอีก 1

 

 วันนี้ 16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังจากชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรสีห์ รายงานว่า จะมีขบวนการนำพาผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาตามช่องทางธรรมชาติด้านชายแดน จ.กาญจนบุรี   

 

 จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จึงสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลาดตระเวน-ซุ่มตรวจ โดยสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 5 ครั้ง ใน 4 จุด ของพื้นที่ 4 อำเภอ คือ ที่บริเวณต้นน้ำซองกาเลีย บ้านใหม่กลางนา ต.หนองลู อ.สังขละบุรี, ที่บริเวณบ้านบ้องตี้ล่าง หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค, ที่บริเวณบ้านท่าขนุน หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ และที่บริเวณห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ในห้วงวันที่ 15 - 16 ก.พ.65 โดยมีทั้งซุกซ่อนมาในรถยนต์ และหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่า รวมผู้หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 73 คน เป็นชาย 55 คน และหญิง 18 คน และหญิงผู้ให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นนำพา 1 คน จากการตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งหมด พบไม่เกิน 37.5 องศาฯ  

 

 

เบื้องต้นกลุ่มแรงงานให้การว่า พวกตนทั้งหมดเดินทางมาจาก เมาะลำใย, ย่างกุ้ง, พะโค, ยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยจะเข้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร, จ.ระยอง, จ.กาญจนบุรี และ กรุงเทพฯ บางส่วนจ่ายเงินให้นายหน้าแล้ว บางส่วนจ่ายเมื่อถึงปลายทาง คนละ 15,000 - 30,000 บาท/คน (แล้วแต่ระยะทาง) แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน      

 

หลังจากทั้งหมดยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี, สภ.ไทรโยค, สภ.ทองผาภูมิ, สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหาฐานลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ส่วนผู้นำพาถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และช่วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม