SPRC เตรียมสูบน้ำมันค้างท่อ 1.2 หมื่นลิตร คาด 11 วันเสร็จ

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาท่อน้ำมัน ของบริษัท สตาร์รีไฟแนนซิ่ง จำกัดมหาชน หรือ SPRC รั่ว ทำน้ำมันรั่วไหลในอ่าวมาบตาพุด จ.ระยอง ว่า รวมถึงการดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย และการฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ว่า จากการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา พบการรั่วไหลครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 กุมภาพัน์ 65 ประมาณ 5,000 ลิตร จึงได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัท SPRC เพื่อหาแนวทางจัดการท่อและน้ำมันค้างท่อ เพื่อไม่ให้รั่วไหลออกมาอีก

นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบจุดรั่วไหล 2 จุด จุดแรกบริษัทดำเนินการแก้ไขแล้ว ส่วนจุดที่ 2 อยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 เมตร มีลักษณะเป็นแผลยาว 70 เซนติเมตร ปัจจุบันน้ำมันที่ค้างท่อมีอยู่ประมาณ 12,000 ลิตร เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยไม่มีผลกระทบ บริษัท SPRC ได้ส่งแผนปฏิบัติงานมายังกรมเจ้าท่า ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้กรรมการพิจารณาแผนการดำเนินการ พร้อมให้ข้อเสนอะแนะในการนำน้ำมันค้างท่อออกมา โดยไม่ให้เกิดน้ำมันรั่วไหลเป็นครั้งที่ 3 รวมถึงเทคนิค แผนการซีลแผลบริเวณท่อ ที่ต้องซีลทับถึง 4 ชั้น และการกำหนดแผนตอบโต้ กรณีมีน้ำมันรั่วไหลออกมา โดยทั้งก่อนปฏิบัติการและระหว่างปฏิบัติการ บริษัท SPRC จะต้องบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย

นายภูริพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท SPRC ได้ส่งแผนปฏิบัติการฉบับแก้ไขให้สำนักงานเจ้าท่าแล้ว ซึ่งทางสำนักงานเจ้าท่าระยองได้ส่งหนังสืออนุญาตให้บริษัท SPRC เข้าดำเนินการแล้วเช่นกัน

สำหรับแผนปฏิบัติการสูบน้ำมันค้างท่อ คาดว่าจะใช้เวลารวมทั้งหมด 11 วัน ทั้งการเข้าไปทำความสะอาดท่อ ซีลแผลของท่อที่มีความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ที่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เบื้องต้น การประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ มั่นใจเกือบ 99.99% ว่าจะไม่มีเหตุน้ำมันรั่วเป็นรอบที่ 3 หรือหากมีรั่วออกมา ก็มั่นใจว่าจะสามารถจัดการได้อย่างทันท่วงที เพราะทางบริษัทได้เตรียมการรับมือเอาไว้แล้ว ทั้งเรือกางบูมจำนวนกว่า 20 ลำ และเรือสำหรับฉีดสาร Dispersent โดยตลอด 11 วันของปฏิบัติการฯ ทางบริษัท SPRC ยังได้ติดตั้งเต๊นดักน้ำมัน บริเวณเหนือ SPM ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง