รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

เศรษฐีใหม่ป้ายแดง "ตรวจหวย" รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

"ตรวจหวย" รวมเศรษฐีใหม่ป้ายแดง รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน 
 

หนุ่มดอนข่าถูกรางวัลที่ 1 4 ใบรวมมูลค่า 24 ล้าน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสื่อโซเชียลมีเดียในจังหวัดขอนแก่นโพสต์แสดงความยินดีกับชาวอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 4 ใบรวมมูลค่า 24 ล้านบาท ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความดีใจและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก

รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบไปที่บ้านดอนข่า หมู่7 ตำบลชนบท อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นายศราวุธ งามประเสริฐ อายุ 45 ปี ผู้โชคดีถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่หนึ่งจำนวน 4 ใบรวม 24 ล้านบาท แต่เจ้าตัวไปทำงานอยู่ที่โคราชกับภรรยาโดยบรรยากาศที่บ้านมีลูกสาวสองคนของผู้โชคดีพร้อมด้วยตายายและญาติพี่น้องได้เหมารถตู้เดินทางไปหาผู้โชคดีที่โคราชทันทีหลังจากทราบว่านายศราวุธถูกรางวัลที่หนึ่ง

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับลูกสาวของนายศราวุธ ทราบว่าหลังจากที่พ่อถูกรางวัลก็ได้โทรศัพท์มาบอกที่บ้านพร้อมกับเหมารถตู้ ให้ทุกคนเดินทางไปร่วมฉลองที่บ้านของพ่อทันทีตอนนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ขณะที่ผู้โชคดีที่ถูกรางวัลที่หนึ่งได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หนุ่มใหญ่ดินแดนทุเรียนภูเขาไฟ ถูก 18 ล้านบาท

วันที่ 1 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 250 บ้านกระแชงพัฒนา หมู่ 12 ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หมู่บ้านถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟ หลังทราบว่า นายจันโท พิทักษ์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านโชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 2565 เมื่อไปถึงพบมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านมาร่วมแสดงความยินดีกับนายจันโท และครอบครัว ที่ได้เป็นเศรษฐีใหม่ ซึ่งนายจันโทได้นำสลากที่ถูกรางวัลหมายเลย 061905 ชุดที่ 50 ชุดที่ 61 และชุดที่ 67 รวม 3 ใบ มาให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย

นายจันโท พิทักษ์ ผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 กล่าวว่า ตนได้ซื้อลอตเตอรี่ตามเลขที่บ้านตัวเอง คือ 250 ซื้อกับหลานที่เป็นคนขายสลากกินแบ่ง หวังเลขท้าย 2 ตัว คือ 50, 05 หลานได้เอาชุดที่ลงท้ายด้วย 05 มาให้ หลังจากที่ได้ซื้อลอตเตอรี่แล้ว ตกกลางคืนก็นอนฝันว่า พี่ชายของตนซึ่งอยู่จังหวัดบึงกาฬนำเงินมาให้แล้วบอกว่าให้เอาเงินไปให้แม่ใช้ และทำบุญที่วัด เหลือก็เก็บเอาไว้ตั้งตัว วันนี้พอหวยออก ได้นำสลากที่ซื้อไว้มาตรวจ รู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ตนดีใจมากทำอะไรไม่ถูก เดินรอบรถ 3 รอบ ก่อนที่จะเดินทางไป ที่ สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

หลังจากนี้ก็จะหาวันเวลาเดินทางไปขึ้นเงินกับกองสลากต่อไป ซึ่งแม่ของตนเสียชีวิตไปแล้ว ฝันถึงพี่ชายเอาเงินมาให้ บอกให้เอาเงินไปให้แม่ใช้ก็คงจะต้องทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศลให้แม่ และจะบริจาคเงินให้วัดเพื่อบูรณะศาสนสถานเป็นการสร้างกุศลต่อไป

ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกรางวัลอีก 1 ใบ รับไป 6 ล้านบาท เป็นชาวอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวตน เพราะหวั่นญาติเยอะ และอาจเกิดอันตรายต่อตน สรุปรวมแล้วงวดนี้จังหวัดศรีสะเกษมีผู้ถูกรางวัลที่ 1 รวม 4 ใบ รวมได้เงินรางวัลทั้งสิ้น 24 ล้านบาท และจากประวัติที่ผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษจะมีพูดถูกรางวัลที่ 1 ทุกงวดติดกันนับมาเป็นปีแล้ว จึงเรียกไปว่าจังหวัดศรีสะเกษคือดินแดนของรางวัลที่หนึ่งจริง ๆ

หนุ่มพนักงานโรงปูนโคราช ซื้อลอตเตอรี่ตามทะเบียนรถกระบะมา 10 ปี สุดเฮง! ถูกรางวัลที่ 1 4 ใบ รับเงิน 24 ล้านบาท

วันที่ 1 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 124/2 หมู่ 4 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบนายสราวุฒิ งามประเสริฐ อายุ 45 ปี หนุ่มดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 2565 หมายเลข 061905 จำนวน 4 ใบ รับเงิน 24 ล้านบาท มีญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานมาร่วมแสดงความยินดีเต็มบ้าน หลังได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมภรรยา เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

จากการสอบถามนายสราวุฒิ งามประเสริฐ อายุ 45 ปี เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นพนักงานโรงปูนซีเมนต์นครหลวง อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกอีก 2 คน ปกติในทุกงวดก็จะซื้อลอตเตอรี่ไว้เสี่ยงโชคเป็นประจำ งวดละ 4-5 ใบ และได้ซื้อตามเลขทะเบียนรถเป็นประจำทุกงวดอยู่แล้ว ก่อนที่หวยจะออกในช่วงเช้ารู้สึกมีอาการคันฝ่ามือทั้ง2ข้าง และขณะที่ทำงานอยู่พอถึงเวลาหวยออก จึงทราบว่ารางวัลที่1 ออกหมายเลข 061905 ซึ่งตรงกับรางวัลที่ตนเองซื้อไว้ตนดีใจมาก พอถึงเวลาเลิกงานรีบขับรถกลับบ้านมาบอกภรรยาที่บ้านต่างดีใจ ตนยังเล่าอีกว่าถึงถูกรางวัลที่ 1 ก็จะมายึดอาชีพเป็นพนักงานโรงปูนอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากรักงานนี้มาก ทำงานมาแล้ว 25 ปี ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้หนีและวางแผนนำเงินไปดูแลพ่อแม่ และครอบครัว ส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นการศึกษาให้ลูกต่อไป

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มีนาคม 2565 ขณะที่ ร.ต.ท.ณัฐกานต์ ดาวฤกษ์ รอง สว.(สอบสว) สภ.เมืองอุดรธานี มี น.ส.สลิลา พาพันธ์ อายุ 45 ปี ชาว ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แจ้งว่า ถูกรางวัลที 1 ประจำงวดวันที่ 1 มีนาคม 2565 หมายเลข 061905 งวดที่ 10 ชุดที่ 21 จำนวน 2 ใบ 12 ล้านบาท โดยต้องการมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นเป็นหลักฐาน เสร็จแล้วเดินทางกลับบ้านทันที

แม่ค้าออนไลน์อุดรฯ ดวงเฮงซื้อเลขวันเกิดรับโชค 12 ล้าน

น.ส.สลิลา หรืออ้อ สาวดวงเฮง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนเป็นนักธุรกิจขายอาหารเสริมทางออนไลน์ และผลิตน้ำดื่มที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นโสด ปกติตนจะซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคปีละ 2 ครั้ง คือวันปีใหม่ และวันเกิด โดยก่อนถูกหวย ตนทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตน้ำ จ.สระบุรี เพจร้านขายลอตเตอรี่รุ่งโรจน์ ถนนราชพัสดุ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งรู้จักกันได้เด้งขายลอตเตอรี่ขึ้นมาหน้าเฟซบุ๊กตน ตนคิดว่าใกล้วันเกิดตัวเอง ตนจึงซื้อสั่งซื้อเลขท้าย 05 และ 45 เพราะตนเกิดวันที่ 5 มีนาคม อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นเลขชุดอย่างละ 2 ใบ โอนเงินจ่ายทันที 400 บาท และก็ไม่ได้ฝันอะไรเลยว่าจะโชคดี

รางวัลที่ 1 อยู่ที่อีสาน โคราช-ขอนแก่น ถูกคนละ 24 ล้าน ศรีสะเกษ 18 ล้าน แม่ค้าอุดร 12 ล้าน

กระทั่งบ่ายวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พอสลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัล ปรากฏว่าเจ้าของร้านลอตเตอรี่ได้โทรมาบอกว่าตนถูกรางวัลที่ 1 และเก็บลอตเตอรี่ไว้ให้แล้ว ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะไม่เคยถูกลอตเตอรี่เลย แม้แต่รางวัลเลขท้าย 2 ตัวก็ไม่เคยถูก จึงโทรศัพท์มาบอกพ่อที่อยู่ จ.อุดรธานี และวันนี้ตนได้เดินทางมารับลอตเตอรี่กับแม่ค้า และพาเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน และจะเดินทางไปขึ้นรางวัล ส่วนเงินรางวัลที่ได้รับจะนำจ่ายค่าบ้านที่กรุงเทพฯ 1.5 ล้านบาทให้พ่อแม่ และญาติ ที่เหลือจะเก็บไว้ต่อยอดธุรกิจ.