ตร. เผย "ปอ-โรเบิร์ต" บวชได้ เพราะประกันตัว ไม่หลบหนี

ตร. เผย "ปอ-โรเบิร์ต" บวชได้ เพราะประกันตัว ไม่หลบหนี

ตร. เผย "ปอ-โรเบิร์ต" บวชอุทิศส่วนกุศลให้กับ "แตงโม นิดา" ได้ เพราะประกันตัวไปแล้ว และไม่มีพฤติการการณ์ว่าจะหลบหนี

กรณีที่คนใกล้ชิดหลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้  เปิดเผยว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ปอ และ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้แตงโม นิดา  วันที่ 16 มีนาคมนี้

ล่าสุด พล.ต.ต.อุดร  ยอมเจริญ รองผบช.ภาค1 เปิดเผยว่า แม้จะเป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อได้รับการประกันตัวไปแล้ว และ ไม่มีพฤติการการณ์ว่าจะหลบหนี ในทางตำรวจก็เป็นสิทธิ์ของทั้งสองคนที่จะสามารถทำการบวชได้ แต่ในเรื่องของสงฆ์ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของสงฆ์ว่าสามารถทำได้หรือไม่ 

ทั้งนี้ ตามกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 17 พ.ศ.2536 ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ มส.ได้กำหนดลักษณะของคนที่ต้องห้ามให้งดเว้น จากการบรรพชาอุปสมบทไว้ในข้อ 14 ว่า

พระอุปัชฌาย์ต้องงดเว้นการอุปสมบทแก่คนต้องห้ามเหล่านี้ 

  • คนทำผิดหลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน 
  • คนหลบหนีราชการ 
  • คนต้องหาในคดีอาญา 
  • คนถูกตัดสินจำคุกโดยฐานเป็นผู้ร้ายสำคัญ 
  • คนถูกห้ามอุปสมบทเด็ดขาดทางพระพุทธศาสนา 
  • คนเป็นโรคติดต่อ เป็นที่น่ารังเกียจ อาทิ วัณโรคในระยะอันตราย และ 
  • คนมีอวัยวะพิการจนไม่สามารถปฏิบัติกิจพระศาสนาได้

ผู้ที่จะบวชเป็นสามเณรหรือพระได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • เป็นสุภาพชนที่มีความประพฤติดีประพฤติชอบ ไม่มีความประพฤติเสียหาย เช่นติดสุราหรือยาเสพติดให้โทษเป็นต้น และไม่เป็นคนจรจัด
  • มีความรู้อ่านและเขียนหนังสือไทยได้
  • ไม่เป็นผู้มีทิฏฐิวิบัติ
  • ไม่เป็นคนล้มละลาย หรือมีหนี้สินผูกพัน
  • เป็นผู้ปราศจากบรรพชาโทษ และมีร่างกายสมบูรณ์ อาจบำเพ็ญสมณกิจได้ ไม่เป็นคนชราไร้ความสามารถหรือทุพพลภาพ หรือพิกลพิการ
  • มีสมณบริขารครบถ้วนและถูกต้องตามพระวินัย
  • เป็นผู้สามารถกล่าวคำขอบรรพชาอุปสมบทได้ด้วยตนเอง และถูกต้องไม่วิบัติ


 

 

หากจะพูดถึง กรณีของ "ไฮโซปอ กับ โรเบิร์ต" จึงถือว่าอยู่ในกลุ่มคนต้องห้าม ไม่สามารถบวชได้ กรณีพระอุปัชฌาย์บวชให้ ทั้งที่รู้ว่าเป็นบุคคลต้องห้าม จะมีความผิด ผู้บังคับบัญชาอาจสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่พระอุปัชฌาย์ แต่ไม่ถึงขั้นอาบัติ เพราะถือว่าทำความผิดในฐานะพระอุปัชฌาย์ ส่วนกรณีที่พระอุปัชฌาย์ไม่รู้ว่าต้องโทษ แล้วหนีมาบวช ตรงนี้พระอุปัชฌาย์จะไม่มีความผิด แต่เมื่อรู้แล้วจะต้องให้ลาสิกขาทันที

นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ที่หนีคดีแล้ว มาบวชค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่พระอุปัชฌาย์ไม่ทราบ พอทราบก็ให้ลาสิกขาทันที การที่หนีคดีแล้วมาบวช ไม่ใช่ว่าจะพ้นผิด บางคนอยากบวช เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้ที่ถูกกระทำ ซึ่งตรงนี้อยากบอกว่าในฐานะชาวพุทธ ต้องเข้าใจว่ากระทำความผิดระดับใด ไม่สามารถไปบวชได้ แม้จะสำนึกผิด และอยากใช้ศาสนาเป็นที่พึ่ง แต่ขอให้รับโทษทางกฎหมายให้จบก่อน เมื่อรับโทษจบแล้ว อยากจะสร้างบุญให้กับผู้ที่ถูกกระทำ สามารถไปบวชทีหลังได้ ตรงนี้ต้องเข้าใจ และลำดับขั้นตอนให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด