วิกฤติน้ำมัน ประชาชนวอนรัฐรีบเข้าช่วย ชี้ของแพงจนประหยัดไม่ไหว
ฮอตโซเชียล วิกฤติน้ำมัน ประชาชนวอนรัฐปรับเปลี่ยน เร่งช่วยคนเดือดร้อน โวยแพงจนประหยัดไม่ไหว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและผู้ประกอบการขนส่งสินค้า รับจ้างส่งประชาชน นักท่องเที่ยวทราบว่า ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกระทบอย่างกว้าสงขวางทุกกลุ่ม อาชีพ ภาครัฐต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจังพร้อมให้ภาครัฐปรับจากบริษัทเอกชน ของ ป.ต.ท. มาเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อแก้ปัญหา
นายต้น ผู้ประกอบการด้านขนส่งข้าว-อาหารชาว อ.วังสะพุง จ.เลย ขับรถมาเติมน้ำมันฯ เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบมากจากภาวะราคาน้ำมันแต่ด้วยความจำเป็นน้ำมันเป็นต้นเป็นตัวหลักในการประกอบอาชีพ การขนส่งต่างๆ แต่ประชาชนไม่สามารถปฏิเสธและต่อรองราคาจำเป็นจริง ๆ ได้แต่วอนให้รัฐบาลรีบแก้ปัญหา รวมถึงปัญหาราคาสินค้าต่างๆที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขึ้นราคาแล้วไม่ลง อ้างแต่ว่าค่าขนส่งมาสูงจำเป็นต้องขึ้นราคาเพื่อความเหมาะสมทางธุรกิจของเขา ตนแบกรับภาระอันหนักต้องสร้างบ้านทั้งจ่ายเงินค่าเช่าซื้อรถยนต์ ค่าใช้จ่ายกับครอบครัว บุตร การศึกษาค่าสาธารณูปโภคอีกแต่ละเดือนไม่มีเงินเหลือเลย หากเป็นอย่างนี้อีกคงจะปรับตัวประหยัด รัดเข็มขัดอยู่ไม่รอดแน่
ผู้ประกอบการรถแท็กซี่เมืองเลย ที่ บ.ข.ส.เลย เปิดเผยว่า ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งสูงทางแก้มีทางเดียวครับคือ ภาครัฐจะต้องปรับให้บริษัทเอกชน ป.ต.ท. ดึงกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิมเท่านั้น เพื่อการบริหารการควบคุมของภาครัฐเอง ที่ส่งผล กระทบอย่างใหญ่หลวงมาสู่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะด้านราคาสินค้าที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน
แพงอย่างต่อเนื่องจะให้แต่ประหยัดทำได้อย่างไร ในเมื่อประชาชนไม่มีรายได้จะเอาอะไรมาประหยัดปัจจุบัน ตนส่งผู้โดยสารไป อ.นาด้วงเที่ยวละ 350 บาท/ 35 กม. หากรัฐแก้ราคาน้ำมันลงมาได้ตนก็จะเก็บแค่ 250 บาทโอเคไหม เพราะบริษัทเอกชนหวังแต่ผลประโยชน์สูบเลือดเหลือแต่กระดูกติดเนื้อเท่านั้น การสงครามนั้นก็เห็นมีมาตลอดมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ประเทศมหาอำนาจสร้างให้เขาทะเละกันแล้วก็ถือโอกาสขายอาวุธก็เท่านั้นเอง ราคาน้ำมันเป็นปัญหาระดับต้น ปัญหาพื้นฐานของชาวโลกชาวไทย ราคา 50 บาท/ลิตรแล้วให้ค่าแรงประชาชน 1,000 บาท/วัน ได้หรือไม่ จึงจะอยู่รอดในเมื่อไม่มีเงินจะเอาอะไรมาประหยัด ผู้ประกอบการแท๊กซี่กล่าวในที่สุด