โซเชียลแห่อาลัย นศ. ม.ดังโคราช โดนรับน้องเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 65 จากกรณีเฟชบุ๊คชื่อ ก็'ดวง งัย จะใครระ ได้โพสรูปภาพบุคคลและพร้อมข้อความว่า...

RIP น้องรักตื่นขึ่นมาได้ข่าวตกใจเลยเสียใจเลย เห็นกันมาแต่น้อยบ่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ่นกำลังเป็นหนุ่มกำลังมีอนาคตจากไปเร็วเกิด ไปเป็นเทวดาบนสวรรค์นะเปรม #นี้หรอวิธีรับน้องของพวกมึงถึงตายเลยหรอ จนทำให้ผู้คนเข้ามาคอมเม้นว่าการรับน้องจนเสียชีวิตเป็นเรื่องเกินกว่าเหตุ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของน้องที่เสียชีวิตบ้านเลขที่ 174 หมู่ 6 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทราบชื่อคือ นายพัดยศ ชนภักดี หรือ น้องเปรม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองโคราช ซึ่งถูกรับน้องจนเสียชีวิต ซึ่งได้สอบถามญาติต่างพากันเศร้าโศกเสียใจและมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เตรียมเข้าแจ้งความกับทางผู้ก่อเหตุที่ทำกับหลานตนเองจนเสียชีวิต
 

สอบถาม คุณตาอุดม เชิดชู อายุ 74ปี ตาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนแรกตนก็ยังไม่ทราบว่าหลานเสียชีวิต เพราะปกติแล้วหลานจะไปเรียนอยู่ในโคราช เรียนที่มหาวิทยาลัยปี 1 และ 1 อาทิตย์จะกลับมาที่บ้าน 1 ครั้งเพื่อมาเยี่ยมตากับยาย ส่วนพ่อแม่นั่นทำงานอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชนานๆ ทีจะกลับมา พอมารู้ว่าทางเพื่อนน้องโทรมาบอกว่าน้องเสียชีวิตเนื่องจากการรับน้องที่มหาวิทยาลัย ตนก็รู้สึกเสียใจมากๆ เพราะหลานคนนี้ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนเรื่องของคดีก็ต้องให้ทางพ่อแม่ของน้องตัดสินใจ ส่วนคนที่ทำก็ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไรจนทำให้หลานของตนเสียชีวิตแบบนี้ เป็นการกระทำที่ทำเกินกว่าเหตุจริงๆ
 

ด้านนางณรัฐนันท์ ฐานศรีละหาน อายุ 46 ปี ญาติของน้องเปรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนได้สอบถามทางเพื่อนน้องว่าตอนแรกน้องก็อยู่กับเพื่อนแล้วมีรุ่นพี่มาชักชวนให้ไปเตะบอลหรือเล่นกีฬา ทางน้องก็หลงเชื่อจึงได้ออกไปหลังจากนั้นเป็นการรับน้อง แล้วให้มีการดื่มสุราและได้โดนรุ่นพี่ใช้หมัดต่อยไปที่หน้าอกจำนวน 1 หมัด จนน้องเปรมฟุบลงไปกับพื้น หลังจากนั้นก็มีการช่วยชีวิตจนน้องเปรมตื่นขึ้นแต่หลังจากนั้นไม่นานก็สลบและหมดสติไปเลย จนกระทั่งเพื่อนของน้องเปรมที่รับน้องด้วยกันต้องหามร่างไปส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางมาก็พบว่าน้องเปรมไม่หายใจและไม่มีชีพจรแล้ว ตอนนี้ตรวจผลเลือดก็พบว่าน้องเปรมติดโควิด 19 ด้วย ส่วนเหตุการณ์เห็นว่ารุ่นพี่พารุ่นน้องไป 20 คน แต่ไม่รู้เอาไปทำแบบไหนบ้าง แต่หลานตนเองโดนแบบนี้ก็รับไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์รับน้องแบบนี้ยังมีอยู่อีกหรอในสังคมไทย อย่างไรก็ตามเรื่องคดีความก็ต้องรอให้พ่อแม่ดำเนินการไป แต่ตนคิดว่าน่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะมีคนเสียชีวิตแบบนี้ซึ่งเป็นหลานของตนด้วย