คืบหน้ารับน้องโหด ผู้การโคราชลงพื้นที่เร่งรัดคดีด้วยตนเอง
คืบหน้ารับน้องโหด ผู้การโคราชลงพื้นที่เร่งรัดคดีด้วยตนเอง พร้อมเชิญผู้ปกครองรุ่นพี่หารือการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ สภ.มะเริง เร่งสอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ที่เหลือ ด้านมหาวิทยาลัยเตรียมสอบสวนลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งสรุปผลภายใน 1 สัปดาห์
จากกรณี นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ19ปี เป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่1สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่เมื่อกลางดึกของวันที่13มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ และได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มรุ่นพี่7คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยทั้ง 7 คนได้ให้รับทราบข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (16 มีนาคม 2565) พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ สภ.มะเริง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้เชิญผู้ปกครองของนักศึกษารุ่นพี่ทั้ง 7 คน เข้าหารือแนวทางช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวน้องเปรม ผู้เสียชีวิต โดยแนะนำให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยตกลงร่วมกันจะเป็นการดีที่สุด
ก่อนที่ พล.ต.ต.พรชัยฯ จะเดินขึ้นไปสังเกตการณ์ในห้องพนักงานสอบสวน ชั้น 2 สภ.มะเริง ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ยังคงดำเนินการสอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ ปวส.ชั้นปีที่2ที่เหลืออีก18คน ที่อยู่ในเหตุการณ์จัดกิจกรรมรับน้องในทุ่งนา เขตพื้นที่บ้านโคกมะกอก หมู่14ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังจากได้สอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ และกลุ่มรุ่นน้องไปแล้วก่อนหน้านี้จำนวน 38 คน
ซึ่งจากการสอบสวนกลุ่มนักศึกษาทั้งหมดให้การสอดคล้องกัน โดยเป็นการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมรับน้องนอกรั้วมหาวิทยาลัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลักษณะไม่ใช่เป็นการรุมทำร้าย แต่มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มรุ่นพี่ชกที่หน้าท้องของรุ่นน้องที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานทีละคน โดยกลุ่มรุ่นพี่บอกให้รุ่นน้องเกร็งหน้าท้องไว้ ก่อนใช้หมัดชกที่หน้าท้องของรุ่นน้องไปคนละ1ครั้ง โดยกลุ่มรุ่นพี่ 7 คนที่ถูกแจ้งหา แยกเป็นรุ่นพี่ 6 คนใช้หมัดชกรุ่นน้อง ส่วนรุ่นพี่อีก 1 คน ไม่ได้ใช้หมัดชก แต่ได้สั่งให้รุ่นน้องไถปลาหมอ (ใช้ร่างกายไถตัวไปกับพื้นดิน)
ส่วนกรณีน้องเปรมเสียชีวิต ยังคงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพราะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แต่เชื่อว่าน้องเปรมถูกรุ่นพี่6คนใช้หมัดชกที่หน้าท้อง ทำให้มีอาการชักเกร็ง แม้รุ่นพี่ และเพื่อนๆ จะพยายามช่วยชีวิต แต่สุดท้ายน้องเปรมทนพิษความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่าในส่วนการดำเนินการสอบสวนของทางมหาวิทยาลัย ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งภายในวันศุกร์นี้ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการ และเรียกตัวกลุ่มรุ่นพี่ กลุ่มรุ่นน้อง และอาจารย์ผู้รับผิดชอบมาให้ปากคำ เพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยจะสรุปผลให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์โดยมีบทลงโทษตามระดับความผิดของแต่ละคน ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยจะพิจารณาสอบสวน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนกรณีหลังเกิดเหตุการณ์กิจกรรมรับน้องจนเสียชีวิต และได้ตรวจพบน้องเปรมติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดได้มีการตรวจพบว่า นายนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี แม่ของน้องเปรมก็ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นเดียวกัน ทางมหวิทยาลัยก็ได้นำตัวกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องทั้งหมดไปทำการตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อ แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีนักศึกษาคนใดติดเชื้อเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัยก็จะทำการตรวจATKให้กลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดซ้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค