แห่ขึ้นเขา บุกถ้ำหาสมบัติ "พระพุทธรูปทองคำ" วัดเขาพระทอง ย้ำอันตราย
พระมหาอารยนันต์พร้อมโหรใหญ่ นำลูกศิษย์แห่ขึ้นเขาบุกถ้ำพิสูจน์ ค้นหามหาสมบัติ "พระพุทธรูปทองคำ" วัดเขาพระทอง นครศรีธรรมราช ย้ำอันตรายทางขึ้นไม่สะดวก
กรณีที่วัดเขาพระทอง ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสพร้อมด้วยคณะอาจารย์คะชาธร วะราณะธำรง โหรใหญ่ที่เดินทางมาจาก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และลูกศิษย์วัด ร่วมประกอบพิธีขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ เทพพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อขออนุญาตขึ้นบนยอดเขาพระทอง เพื่อค้นหาถ้ำที่เชื่อว่า มีพระพุทธรูปทองคำถูกลามโซ่ทองคำเอาไว้ จนเป็นที่มาของชื่อ “ วัดเขาพระทอง ” รวมทั้งมีทรัพย์สมบัติ แก้ว แหวนเงินทองที่อยู่ในถ้ำจำนวนมาก
พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เล่าว่า สำหรับวัดเขาพระทองสร้างมาแล้วกว่า 1,000 ปี รุ่นสมัยเดียวกับวัดมหาธาตุวรวิหาร ตอนนั้นพระนางเหมชาลา เกณฑ์คนไปสร้างวัดมหาธาตุในจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่พระนางเหมชาลา ทราบว่า วัดพระมหาธาตุ สร้างเสร็จแล้ว จึงให้ลูกน้องแวะที่ วัดเขาพระทอง ซึ่งมีภูเขา 2 ลูก ตอนนั้น พระเหมชาลา สร้างพระพุทธรูปไว้ 29 องค์ หนึ่งในนั้นคือพระองค์ใหญ่ เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า กราบไหว้และขอโชคลาภ จะสมปรารถนา
“อาตมาจำพรรษาที่วัดเขาพระทองประมาณ 10 พรรษา ที่ผ่านมา ผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าให้ฟังว่า ภายในถ้ำด้านหลังหลวงพ่อองค์ใหญ่ มีสมบัติไว้มากมาย เป็นสมบัติของกลุ่มพระนางเหมชาล ซ่อนไว้ในถ้ำ และพระพุทธรูป 1 องค์ ชื่อว่า "พระศรีฉัตรเพชร" เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องทองคำทั้งองค์ ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ทองคำ"
พระมหาอารยนันต์ เล่าอีกว่า เมื่อ 60 ปี ที่ผ่านมา จากคำบอกเล่าผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าต่อกันมาว่า มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อนายดวง เดินออกป่าล่าสัตว์มายังเขาพระทอง จากนั้นสัตว์ป่าวิ่งเข้าในถ้ำ นายดวง จึงวิ่งตามเข้าในถ้ำ กระทั่งนายดวง เจอพระพุทธรูปทองคำ 1 องค์ ด้วยความอยากได้ จึงพยายามยกพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวออกมาจากถ้ำ แต่พระพุทธรูปมีโซ่ทองคำยึดติดกับพื้นถ้ำล่ามพระบาทพระพุทธรูปเอาไว้ ซึ่งระหว่างที่นายดวง ยกพระพุทธรูปขึ้นมานั้น หินที่อยู่น้ำด้านบนถ้ำเกิดถล่มลงมา ด้วยความตกใจ จึงวิ่งหนีออกจากถ้ำ หลังจากนั้นเล่าให้ชาวบ้านฟัง กระทั่งชาวบ้าน พยายามจะเข้าหาสมบัติในถ้ำตามคำที่นายดวงบอก แต่ก็หาทางเข้าถ้ำไม่พบ
ที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มไสยเวทย์ มักเข้าประกอบพิธีตามหามหาสมบัติและเหล็กไหล ในเขาพระทอง แม้จะใช้เวทย์มนตร์คาถาเรียกเหล็กไหลย้อยออกมาตามรูผนังภูเขาได้ แต่ไม่เคยมีใครสามารถตัดเหล็กไหลเอาไปได้ ปัจจุบันจึงยังปรากฏร่องรอยรูเหล็กไหล และฝ่ามือคล้ายมนุษย์ที่ใช้เวทย์มนตร์คาถาผลักหน้าผา ปรากฏอยู่บริเวณผนังหิน ด้านหลังหลวงพ่อองค์ใหญ่ และพุทธรูปโบราณรวม 29 องค์ นอกจากนี้มีลูกศิษย์ของตัวเอง เคยเห็นพญานาคขาว และพญานาคดำ อยู่ในถ้ำอีกด้วย น่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกป้องสมบัติในถ้ำเอาไว้
ขณะที่เมื่อปี 2563 มีนักธุรกิจชาว อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุขโมยพระพุทธรูปที่ขุดพบส่วนหนึ่งในถ้ำ เมื่อนำพระพุทธรูปกลับบ้าน กลับถูกทหารโบราณรูปร่างตัวใหญ่เหยียบที่หน้าอกและบีบคอ จนต้องเอาพระพุทธรูปมาคืนวัดภายใน 3 วัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา วัดประกอบพิธีขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่ เพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขาให้ปรากฏเห็นพระพุทธรูปทองคำที่อยู่ในถ้ำ หลังทำพิธีสวดมนต์คาถาเสร็จ ในคณะประมาณ 10 คน รวมทั้งพระสงฆ์ เดินขึ้นภูเขาเขาพระทองที่มีความสูง 50 เมตร ที่ค่อนข้างลำบาก ต้องปีนป่ายหน้าผาเถาวัลย์ แต่เหลือเพียง 6 คนเท่านั้นที่ขึ้นบนภูเขาได้ จากนั้นนายชวลิต ลูกศิษย์วัด โรยตัวลงในถ้ำได้เพียง 30 เมตร เท่านั้น แต่ว่าหินที่อยู่ด้านบน ตกหล่นลงในถ้ำจำนวนมาก จึงเกรงว่าจะเป็นอันตราย จึงยกเลิกการค้นหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชาวบ้านทราบข่าว การพิสูจน์สมบัติภายในถ้ำวัดเขาพระทอง รวมทั้งความศักดิ์สิทธ์ของหลวงพ่อองค์ใหญ่ และองค์ท้าวเวสสุวรรณ จึงแห่เดินทางมาที่วัดเขาพระทอง อย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ถ้ำมหาสมบัติ แต่ทางวัดไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนภูเขาพระทอง เพราเกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากเส้นทางขึ้นบนภูเขานั้น ค่อนข้างยากลำบาก แต่หลังจากนี้ทางวัดจะพัฒนาทางขึ้นให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น