ศาลเลื่อนฟังคำสั่งฏีกาคดี "เสก โลโซ" ข้อหายาเสพติด-ต่อสู้ขัดขวางตำรวจ

ศาลเลื่อนฟังคำสั่งฏีกาคดี "เสก โลโซ" ข้อหายาเสพติด-ต่อสู้ขัดขวางตำรวจ

ศาลเลื่อนฟังคำสั่งฏีกาคดี "เสก โลโซ" ครอบครองอาวุธปืน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และเสพยา ด้านเจ้าตัวเผยรู้สึกตื่นเต้นมากว่าทุกครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” นักร้องชื่อดัง อายุ 47 ปี เดินทางมายังศาลอาญามีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ เพื่อฟังคำสั่งศาลฎีกาในเวลา 14.00 น.คดีหมายเลขดำที่ อ.1662/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ. 8288/2561 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้องความผิด ฐานมีอาวุธปืนพกออโตเมติก ที่มีทะเบียนพร้อมกระสุนปืนและต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1

 

ก่อนหน้านี้ “เสก” ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาคำร้อง 4 ฉบับดังนี้

1.คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฉบับลงวันที่ 5 พ.ย. 2563

2.คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้อง ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้จำเลยฎีกาฉบับลงวันที่ 5 พ.ย.2563

 

3.คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาของจำเลยฉบับลงวันที่ 5 พ.ย.2563

4.คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยฉบับลงวันที่ 9 เม.ย.2564

เบื้องต้นศาลอาญามีนบุรีพิจารณาคำร้องทั้ง 4 ฉบับแล้วเห็นว่า เนื่องจากคำร้องฉบับที่ 1 ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณา หรือลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิจารณา และมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องอีก ให้ยกคำร้อง

 

ส่วนคำร้องฉบับที่ 2 ถึงที่ 4 นั้น เป็นคำร้องที่อยู่ในอำนาจของศาลฎีกา ที่จะเป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่ง จึงให้งดอ่านคำสั่งศาลฎีกา และส่งคำร้องพร้อมสำนวน รวมถึงซองคำสั่งไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณา

 

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษารับรองฎีกา ในความผิดฐานอื่น ซึ่งมิใช่ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดว่า มีเหตุอันสมควรที่ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยฎีกาของจำเลย โดยระบุชื่อผู้พิพากษาในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ เพื่อขอให้พิจารณาคำร้องของจำเลยไว้ด้วย 

 

แต่ปรากฏว่า มิได้ดำเนินการตามคำร้องของจำเลยให้ครบถ้วน จึงให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ไม่รับฎีกาของจำเลยในความผิดฐานอื่น ซึ่งมิใช่ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และให้ศาลชั้นต้นดำเนินให้เสร็จ แล้วให้ศาลชั้นต้นรวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งคืนศาลฎีกา กรณีนี้จึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำร้องอุทธรณ์ ไม่รับฎีกาในความผิดฐานอื่นของจำเลย ให้ยกคำร้อง ในชั้นนี้ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความศาลฎีกา

ขณะที่ “เสก” เปิดเผยว่า ขอบคุณศาลที่ให้โอกาส และยอมรับว่า วันนี้รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าการเล่นคอนเสิร์ต และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตัวเองต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม คิดใหม่ทำใหม่ ใจเย็นไม่ใจร้อน ส่วนขั้นตอนในเรื่องของคำสั่งคดีนั้น เป็นหน้าที่ของทนายความ ที่จะยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กับศาลพิจารณาประกอบคำร้อง

 

“ชีวิตครอบครัวทุกวันนี้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยต่างคนต่างปรับตัวเข้าหากัน พยายามไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเหมือนเก่า และพยายามทำดีให้กัน”

สำหรับคดีนี้ “เสก” ถูก พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.ในขณะนั้น นำหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าควบคุมตัวที่บ้านพักย่านคันนายาว ในคดียิงปืนขึ้นฟ้าที่วัดเขาขุนพนม คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยมีการขัดขวางเจ้าพนักงาน

 

ก่อนถูกดำเนินคดี ข้อหามีอาวุธปืนฯ , เสพยาเสพติด และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่นครศรีธรรมราช ซึ่งศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกคดียิงปืนขึ้นฟ้า จำนวน 5 วัน ปรับเป็นเงิน 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

 

ส่วนคดีที่ขัดขืนการจับกุมของตำรวจนครบาล ศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยศาลให้บวกโทษของศาลอาญาเข้าไปด้วย คดีที่ “เสก” ร่วมกับลูกน้อง ทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทของภรรยา เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2559 ที่พิพากษาจำคุก 1 ปี 3 เดือน ปรับเป็นเงิน 4,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี 

 

และศาลฯ ยังให้นับโทษต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมโทษจำคุก 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ 

 

ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษของจำเลย เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และยกคำขอให้นับโทษต่อ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น