ครูทำร้ายเด็ก 2  ขวบ ลาออกแล้ว เผยทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

ครูทำร้ายเด็ก 2  ขวบ ลาออกแล้ว เผยทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

ผู้บริหาร วิทยาลัยพยาบาลฯ เผยครูปากแข็งไม่ยอมรับทำร้ายเด็ก จ๋อยกล้องวงจรปิดภาพชัด เสียงอ่อยอ้างอารมณ์ชั่ววูบ ใจไม่ด้านพอยื่นใบลาออกแล้ว

จากกรณี นางสาวสายลม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ออกมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวกรณีลูกชายวัย 2 ปี 6 เดือนชื่อน้องทะเล ถูกครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนในรั้ววิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขตอำเภอเมืองนครพนม ทำร้ายร่างกายด้วยการดึงใบหูและจับเหวี่ยงไปชนกับผนังห้อง โดยเห็นภาพดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดที่ทางผู้บริหารเปิดให้ดูเป็นเวลา 15 วินาที แต่ห้ามบันทึกและก๊อปปี้ภาพนำไปเผยแพร่ที่ไหนโดยเด็ดขาด จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทางผู้บริหาร กำลังปกป้องคนของตนเองอยู่หรือไม่

ล่าสุด วันที่ 24 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม  มหาวิทยาลัยนครพนม และเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนสถานที่เกิดเหตุ  เพื่อพบกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมสมร เรืองวรบูรณ์ รักษาราชการแทนคณบดีวิทยาลัยพยาบาลฯ  พร้อมเปิดเผยรายละเอียดที่หลายคนสงสัย ว่า ทางคณะผู้บริหารทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคมจากผู้ปกครองของเด็กร้องเรียน  จึงเรียกครูประจำห้องทั้ง 3 คนมาสอบถามว่าใครเป็นผู้กระทำต่อเด็ก ซึ่งทั้งหมดไม่มีใครยอมรับ ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  อดใจรอถึงวันจันทร์ก็ให้ช่างมารีเพลย์ (replay) ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้มาดู พบว่ามีครูผู้หญิงห้องเด็กเล็กทำร้ายร่างกายเด็ก ตามที่ผู้ปกครองน้องทะเลร้องเรียนจริง  จึงเรียกครูคนนั้นมาดูภากจากกล้องจึงจำนนด้วยหลักฐาน สารภาพว่าเกิดอารมณ์ชั่ววูบไปชั่วขณะ  และขอรับผิดต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการเขียนใบลาออกตั้งวันจันทร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว

            ต่อมาก็ได้เชิญผู้ปกครองน้องทะเลมาดูกล้องวงจรปิด สาเหตุที่ไม่สามารถอนุญาตให้ภาพดังกล่าวแก่ผู้ใดได้ เนื่องจากวิทยาลัยพยาบาลฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ  หากต้องการภาพต้องมีหนังสือถึงอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม และมีคำสั่งอนุมัติก่อนถึงจะมอบให้ได้ หากไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาตนจะมีความผิดตามระเบียบวินัยข้าราชการ

 

        ผศ.ดร.สมสมร เรืองวรบูรณ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าต้องขอโทษไปยังผู้ปกครองน้องทะเลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และฝากผ่านสื่อมวลชนไปถึงผู้ปกครองท่านอื่นๆด้วยว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป จะนำเรื่องดังกล่าวมาแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยจะขออนุมัติงบประมาณใช้กล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเปิดดูลูกหลานของตนระหว่างอยู่ในศูนย์ฯได้ตลอดเวลา ส่วนด้านการเยียวยาดูแลสภาพจิตใจน้องทะเล ทางผู้บริหารฯได้ทำความเข้าใจแก่ผู้ปกครองเด็กในเบื้องต้นแล้ว และต้องขอบคุณที่เข้าใจในการทำงานของผู้บริหาร ส่วนที่ไม่ออกมาในตอนแรกเพราะตนเองก็ช็อกต่อภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดเช่นกัน