"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกเหยื่อคนไทย 57 รายไปทำงานในกัมพูชา

สระแก้ว - ผบก.ภ.จว.สระแก้ว รับตัวเหยื่อคนไทย 57 คน ที่โดนหลอกเข้าไปทำงานกับ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ในกัมพูชากลับประเทศไทย บางรายถูกทำร้าย ยึดโทรศัพท์และเงิน ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับหน้าด่าน วุ่นเจ้าหน้าที่ต้องหาทางช่วยเหลือ

 

 

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (25 มี.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เดินทางมาที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อรับตัวเหยื่อคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปบังคับใช้แรงงานซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์กลับจากประเทศกัมพูชา จำนวน 57 คน แบ่งเป็นชาย 38 คน หญิง 19 คน โดยมีเจ้าหน้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ได้นำคนไทยจำนวนดังกล่าวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ก่อนจะเดินทางเข้าสู่กระบวนการข้ามแดนที่ด่านถาวรบ้านคลองลึก

 

เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอรัญประเทศ ด่านถาวรบ้านคลองลึก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสาร ทำการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิเรียบร้อยแล้ว ได้นำคนไทยจำนวน 57 คน ไปกักตัวที่โรงแรมสเตชั่น วัน โฮเทล ถ.ธนะวิถี ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

 

โดยทาง จ.สระแก้ว ได้ดำเนินการจัดสถานที่กักตัว ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ถ้าเหยื่อคนใดฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มและมีหลักฐานยืนยัน จะกักตัว จำนวน 7 วัน และถ้าคนใดยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะกักตัว 14 วันตามมาตรการสาธารณสุข

 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในจำนวนเหยื่อทั้งหมดเดินทางมาจากกรุงพนมเปญตั้งแต่ช่วง 04.00 น. ซึ่งมีคนไทยจำนวน 21 คนที่ถูกช่วยเหลือมาจากเมืองสีหนุวิวล์ และถูกทำร้ายกระทำทารุณต่อร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ 1 คน และอีก 1 คน เหยื่อจากเมืองบาแว๊ต ถูกขายต่อจากเมืองสีหนุวิวล์ไปชายแดนเวียดนาม

 

 

ก่อนที่เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยและเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะเข้าช่วยเหลือรวมอยู่ด้วย ขณะที่ทั้ง 21 คน ถูกกักขังโดยยึดโทรศัพท์มือถือและเงินสดไว้ ทำให้ไม่มีเงินติดตัวมาเลยแม้แต่บาทเดียว เมื่อนำตัวกลับเข้าประเทศไทยตามขั้นตอน ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับ ตม.สระแก้ว ตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาไม่มีเงินจ่ายหลายคน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนนำไปเข้าสู่กระบวนการกักตัวต่อไป