"ไฟไหม้ปราจีนบุรี" ปชช.เล่านาทีระทึกก่อนไฟวอด 30 คูหา ตร.คาดสาเหตุต้นเพลิง
"ไฟไหม้ปราจีนบุรี" เปิดใจประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ กรณีเหตุไฟไหม้กลางตลาดเทศบาลเมืองปราจีนบุรีวอดกว่า 30 คูหา ซึ่งมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ ตร.คาดสาเหตุต้นเพลิง
"ไฟไหม้ปราจีนบุรี" เปิดใจประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ กรณีเหตุไฟไหม้กลางตลาดเทศบาลเมืองปราจีนบุรีวอดกว่า 30 คูหา ซึ่งมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่โครงสร้างเป็นไม้ ทำให้เพลิงไหม้ตลาดอย่างรวดเร็วและยังมีเสียงจากถังแก๊สระเบิดเป็นระยะ ด้านตำรวจคาดสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ไฟไหม้ปราจีนบุรี" อัปเดตล่าสุด เผาวอด 30 คูหา มูลค่าความเสียหายร้อยล้าน
ซึ่งจากเหตุการณ์ "ไฟไหม้ปราจีนบุรี" ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายธีรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ประชาชนที่ถูกไฟไหม้บ้านและเห็นเหตุการณ์ ได้เปิดใจเล่าว่า ตนกลับมาจากสวนเห็นควันมาจากบ้านข้างๆ ที่เปิดเป็นร้านสแตนเลสเลยถามว่า "ลุงย่างอะไรไหม ทำไมควันเยอะจัง" ลุงบอก "เปล่า"
ตอนนั้นก็รู้แล้วว่าไฟน่าจะไหม้ ก็วิ่งเข้าบ้านตัวเองไปเรียกลูกที่เรียนออนไลน์อยู่ เมื่อเรียกลูกลงมาเห็นพี่อีกคนไปงัดบ้านที่อยู่ถัดไปอีกหลังที่ปิดบ้านอยู่ตลอด แล้วเอาถังดับเพลิงมาช่วยกันตอนนั้นน่าจะประมาณ 17.00 น. บ้านอีกหลังที่ไม่มีคนอยู่ เขาปิดบ้านไว้เฉยๆ ส่วนบ้านที่มีคนแก่ก็เป็นหลังที่เปิดเป็นร้านสแตนเลสที่อยู่ติดกับบ้านตน
ส่วนไฟไม่แน่ใจว่าเกิดมาจากบ้านหลังไหน เห็นรอยต่อระหว่าง 2 บ้านนี้ แต่เห็นรถที่มาจอดช่วยเขาบอกเห็นไฟมาจากข้างบนแต่ก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งจริงคือตำแหน่งไหน แต่ก็น่าจะเริ่มจากแถวๆนี้
ด้าน นายธนากร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนไม่ได้มองเวลาเลย ตนขับรถไปจอดถนนตัดใหม่แล้วก็รีบวิ่งมาช่วยเค้า แล้วไฟเร็วมาก ดีว่าเราได้รถดับเพลิงจากที่อื่นมาช่วยเร็ว แล้วก็คนปราจีนเราสามัคคีทำให้ช่วยกันดีมาก ไฟไหม้ทั้งหมด 10 กว่าร้านได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ธนกฤษ พาภิรมย์ รองผบก. ภ.จว. ปราจีนบุรี กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ถนนราษฎรดำริ เป็นชุมชนบ้านไม้เก่า อายุประมาณ 30 กว่าปี ต้นเหตุมาจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเก่าปิดไปนานแล้ว เจ้าหน้าที่ และกู้ภัยช่วยกันดับเพลิง แต่ว่ายังระอุอยู่ และกำลังตรวจสอบว่ายังมีกองไม้ที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้อีกหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุจะต้องรอการสอบสวนและให้วิทยาการพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้งต่อไป