จับคาม่านรูด "ครูหื่น" ปฏิเสธลั่น จ่อสั่งฟันโทษวินัยสูงสุด

กรณีวันที่ 4 เมษายน 2565 เมื่อเวลา 12.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ บุกรวบ "ครูหื่น" โรงเรียนดังในเมือง จ.สุรินทร์ พานักเรียน ม.3 เข้าม่านรูด หลังพลเมืองดีรู้ว่ามีพฤติกรรมชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง เตรียมขยายผลเชื่อเคยกระทำกับลูกศิษย์มาแล้วหลายคน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและทำได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ถูกจับ คือ นายสมนึก เป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลนาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยกล่าวหาว่า "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" หลังการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธสารตลอดข้อกล่าวหา

พฤติการณ์การจับกุม ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าได้ติดตามข้อมูลบุคคลรายหนึ่งมาโดยตลอด ชื่อนายสมนึก ครูสอนวิชาสังคมศึกษา สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลนาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพฤติกรรม ชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง

และสายลับพยายามเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด ต่อมาตามวัน เวลาเกิดเหตุ สายลับได้พบเห็นชายคนดังกล่าว ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สุรินทร์ มาจอดรับหญิงสาวสา (ชื่อนามสกุลสมมติ) บริเวณโรงเรียนดังกล่าว และขับออกไป 

สายลับเมื่อพบเห็นดังนั้น จึงขับรถตามไปจนพบว่า รถคันดังกล่าว เลี้ยวเข้าไปและเลี้ยวเข้าไปจอดภายในปาล์ม รีสอร์ท สายลับจึงโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ มาตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาถึง ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว 

พบนายสมนึกเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา อยู่ภายในห้องกับนางสาวสา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียน ระดับชั้นมัธยมปีที่ 3 โดยตำรวจชุดจับกุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่นายสมนึกเป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ผู้ถูกจับกุม พาหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 17 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี มาจากการปกครองดูแล ของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล พามาในที่โรงแรมม่านรูด ประสงค์มุ่งหวังเพื่อการอนาจาร ถือเป็นความผิดข้อหา "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 นำส่ง พ.ต.ต.แสงหิรัญ แก้วดี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

นางสาวสา (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนนั้นสอบติด "ร." จึงจะแก้ข้อสอบที่ "ติดรอ" ของวิชาสังคมศึกษา ก็ได้มาที่โรงเรียนเพื่อพบนายสมนึกจากนั้นครูหื่นได้ชวนตนออกมาข้างนอกมานั่งทานข้าวและเหล้าเบียร์ได้สักพักได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกมาแล้วได้เลี้ยวเข้าไปที่ปาล์ม รีสอร์ท พร้อมกับชักชวนตนเข้าไปนั่งคุยกันก่อน พอตนเข้าไปในห้องพักนายสมนึกครูหื่นได้พูดกับตนว่าต้องการเงินเท่าไร 500 หรือ 2,000 บาท ตนก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่บอกว่าทำไมอาจารย์ทำแบบนี้ จากนั้นนายสมนึกก็ได้เข้ามาที่ตนพร้อมกับลูบคลำขาอ่อนและจับหน้าอกตน ซึ่งตนนั้นได้ปัดออก ช่วงเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะห้องตน ตนจึงรอดจากครูหื่นคนนี้

แม่ของน้องสา (นามสมมติ) กล่าว่า ได้มีตำรวจที่ สภ.เมืองสุรินทร์โทรหาตนให้ตนมาที่ สภ.เมืองด่วน ตนมาจึงพบว่าลูกสาวตนถูกครูหื่นคนนี้ลวนลามทำอานาจาร ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากที่เกิดรื่องแบบนี้พร้อมกันนี้ทาง ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งโทรมาบอกตนว่าให้เรื่องมันจบไป อย่าให้ทางโรงเรียนเสื่อมเสียเลย ซึ่งทางตนตอบไปว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

ล่าสุดวันที่ 5 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนเพื่อเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ไม่พบพร้อมกับได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์แต่ทาง ผอ.ไม่ได้รับสาย เนื่องจากทางโรงเรียนได้ปิดและให้นักเรียนเรียนทางออนไลน์

ทางผู้สื่อข่าวจึงติดต่อทราบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ดร.สำเริง บุญโต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ดร.สำเริง บุญโต ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ทางตนนั้นได้รับทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งให้คุณครูคนดังกล่าวให้มาประจำส่วนราชการที่เขต และจะตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งให้กรรมการลงตรวจสอบหาข้อเท็จจริงภายในวันนี้อย่างเร่งด่วน และหลังจากนั้นในส่วนของเด็กเราก็จะเข้าดูแลสภาพจิตใจและสืบหาข้อเท็จจริงกับเด็ก เพื่อให้เขาได้ปรับตัวเพื่อเรียนต่อในโรงเรียนต่อได้ 

ส่วนความคืบหน้าอย่างไร เราก็จะดำเนินการตามระเบียบ หากมีความผิดจริงก็จะลงโทษวินัยขั้นสูงสุดและตามกฏหมายต่อไป และในขณะนี้ยังไม่พบผู้ปกครองคนอื่นเข้ามาร้องเรียนเพิ่ม