"โควิดวันนี้" ชลบุรี ยอดติดเชื้อ 791 ราย ATK 4,631 ราย ดับเพิ่ม 3 ราย
"โควิดวันนี้" จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 791 ราย ไม่รวม ATK อีก 4,631 ราย พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 6 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย
รายงานสถานการณ์ "โควิดวันนี้" (12 เม.ย.2565) จ.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 791 ราย (ผู้ติดเชื้อยืนยัน RT-PCR)
1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 40 ราย สะสม 5,660 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,631 ราย 35 ราย
2. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 30 ราย
3. บุคลากรทางการแพทย์ 22 ราย
4. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด (จังหวัดสิงห์บุรี 1 ราย)
5. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
5.1 ในครอบครัว 178 ราย
5.2 จากสถานที่ทำงาน 47 ราย
5.3 บุคคลใกล้ชิด 52 ราย
5.4 ร่วมวงสังสรรค์ 3 ราย
6. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 17 ราย
7. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 401 ราย
ณ วันที่ 11 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 973,500 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 5,186 คน (อัตราป่วย 532.72 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 2 ราย (0.21 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 11 ราย (1.13 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,913,911 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 3,963 คน (อัตราป่วย 207.06 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 12 ราย (0.63 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 19 ราย (0.99 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 15 ราย (0.78 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 143,026 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 272,136 คน รวม 415,162 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 5,841 คน (อัตราป่วย 1,406.92 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 30 ราย (7.27 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 17 ราย (4.09 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 24 ราย (5.78 ต่อแสนประชากร)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 6 ราย
- รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564
- รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565
- รายที่สามพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565
- รายที่สี่พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564
- รายที่ห้าพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2564
- รายที่หกไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 6 ราย
- รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2564
- รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนหนึ่งเข็มเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2565
- และอีกสี่รายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3 ราย รายที่หนึ่งอายุ 79 ปี, รายที่สองอายุ 98 ปี, รายที่สามอายุ 97 ปี สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2564 และอีกสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วย ATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน