GISTDA เผยหนองคาย-อุบลราชธานี-นครพนม ค่าฝุ่น "PM 2.5" กระทบสุขภาพ
GISTDA เผยหนองคาย-อุบลราชธานี-นครพนม ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก "PM 2.5" กระทบสุขภาพ ขณะที่จุดความร้อนทั้งประเทศ 258 จุด
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 258 จุด ลดลงจากวานก่อนเล็กน้อย พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 83 จุด พื้นที่เกษตร 80 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 44 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 28 จุด พื้นที่เขตสปก. 22 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 1 จุด
ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ
- ตาก 33 จุด
- แม่ฮ่องสอน 21 จุด
- เชียงใหม่ 18 จุด
สอดคล้องกับการประเมินพื้นที่เสี่ยงสูงเกิดไฟป่าล่วงหน้า 7 วัน (คือช่วงวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2565) จากภาพแสดงให้เห็นจุดความร้อนกระจายตัวเล็กน้อยทางพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนไม่แตกต่างจากวันที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 11 เมษายน 2565 พบว่าภาคเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 13,365 จุด ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12,663 จุด และภาคกลาง 8,076 จุด ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ยนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก "pm 2.5" เช้านี้เวลา 09.00 น. หลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่นลดลง แต่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝุ่นจิ๋วยังอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึงระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) โดยเฉพาะจังหวัด หนองคาย อุบลราชธานี และ นครพนม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวครองแชมป์ต่อเนื่อง 9 วันติด ซึ่งวานนี้พบ 3,604 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ 3,324 จุด และอันดับที่ 3 เป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 420 จุด ตามลำดับ
ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ "pm 2.5" ในประเทศไทยเนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามาขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ GISTDA